คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4636/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำความผิดใดจะเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมส่วนรวมหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไป โดยโจทก์มิต้องนำสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และสภาพความผิดดังกล่าวศาลอาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยประกอบการพิจารณาลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ, 157 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 57, 91 ให้ลงโทษจำคุก 6 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ความผิดฐานอื่นและคำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนแล้วปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถอาจก่อให้เกิดภยันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งต่อตนเองและบุคคลอื่นพฤติการณ์แห่งคดีนับว่าร้ายแรงและเป็นภัยต่อสังคม โดยโจทก์มิได้สืบพยาน จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาขึ้นเอง และขัดต่อกระบวนพิจารณาในเรื่องการรับฟังพยานหลักฐานทั้งข้อเท็จจริงนี้มิใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลจะทราบได้เองนั้น เห็นว่า การกระทำความผิดใดจะเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมส่วนรวมหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไปโดยโจทก์มิต้องนำสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 84(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 และสภาพความผิดดังกล่าวศาลอาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยประกอบการพิจารณาลงโทษจำเลยได้ ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่า ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้นชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share