คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอาจำนวนเงินที่เป็นหนี้กันอยู่ก่อนแล้วมารวมทำเป็นหนังสือกู้ขึ้นภายหลังสัญญานั้นสมบูรณ์ตามกฎหมายลักษณพะยาน วันโจทก์กล่าวในฟ้องกับวันในสัญญากู้ไม่ตรงกัน เมื่อจำเลยให้การรับว่าก็จริง ก็ตัดสินได้

ย่อยาว

ได้ความว่า น.มารดาจำเลยและโจทก์กับพี่น้องอื่นรวม ๖ คนได้รับมฤดกที่นาของมาคดา ๒ แปลง ซึ่งจำนองไว้แก่ จ. แต่ น.มารดาจำเลยตายไปเสียก่อน จำเลยเป็นผู้รับมฤดกแทน โจทก์ผู้เดียวได้ออกเงินไถ่มาเพื่อแบ่งปันกัน แต่จำเลยไม่มีเงินจะให้และจำเลยได้เอาเงินของโจทก์ไปใช้ส่วนตัวบ้างคิดรวมกันเป็นเงิน ๓๘๐ บาท จึงทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ ๔๐๐ บาท เมื่อทำสัญญาแล้วโจทก์ก็ได้ให้เงินจำเลยอีก ๒๐ บาท จำเลยไม่ใช้เงินโจทก์จึงฟ้อง จำเลยให้การรับ แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงิน
ศาลเดิมตัดสินยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่า ถึงแม้วันในฟ้องกับวันในสัญญากู้ไม่ตรงกันก็ไม่สำคัญ เพราะจำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์จริงแล้ว แต่ที่จำเลยไม่ได้รับเงิน ๔๐๐ บาทไปจากโจทก์เมื่อทำสัญญานั้น ก็ปรากฎว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์เนื่องจากการไถ่ที่นา และเอาเงินของโจทก์ไปใช้ส่วนตัวอยู่ก่อนแล้ว และโจทก์ได้จ่ายให้ภายหลังอีกดังนี้ สัญญากู้นั้นจึ้งใช้ได้ตามกฎหมาย จึงให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามสัญญา แต่ดอกเบี้ยที่โจทก์ขอมาด้วยนั้นให้ยกเสีย เพราะโจทก์ยึดถือนาต่างดอกเบี้ยอยู่แล้ว

Share