คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นจ่านายสิบตำรวจมีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าสถานีตรวจในท้องที่นั้น แม้จำเลยจะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ราษฎรในท้องที่นั้นย่อมรู้จักดีว่าเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุม ฉะนั้น การที่จำเลยพูดว่า ถ้าราษฎรคนใดไม่เชื่อฟังจำเลยและเลือกพรรคฝ่ายค้าน (พรรคโจทก์) ไม่เลือกพรรคเสรีมนังคศิลาแล้ว ให้ผู้ใหญ่บ้านจดชื่อส่งอำเภอ อาจถูกจับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์นั้น คำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นการขู่ให้ราษฎรเกิดความเกรงกลัวได้ เป็นการอุปการะแก่การเลือกตั้งของผู้สมัครอีกฝ่ายโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2499 มาตรา 65.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2501)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นข้าราชการประจำการมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าสถานีตำรวจภูธร จำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่กระทำการอันเป็นอุปการะแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคเสรีมนังคศิลาซึ่งทำการแข่งขันกับโจทก์ โดยกล่าวเป็นข้อความว่าให้เลือกผู้แทนพรรคที่เคยปกครองราษฎรมาแล้วได้รับความร่มเย็น คือ ให้เลือกพรรครัฐบาลเบอร์ ๗ , ๙, ๑๕, ๒๗ ถ้าเลือกพรรคฝ่ายค้านลูกจะพลัดพ่อ ๆ จะพลัดลูก ราษฎรจะได้รับความเดือนร้อน ผู้ใดไม่เชื่อฟังให้ผู้ใหญ่บ้านรายงานไป อำเภอจะได้จับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. เลือกตั้ง ฯ ๒๔๙๙ มาตรา ๖๕
จำเลยปฏิเสธและตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การประชุมราษฎรมิใช่การใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามข้อเท็จจริงจำเลยไม่ได้เรียกราษฎรมาประชุมการกระทำของจำเลยยังไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรา ๖๕ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๖๕ ให้จำคุกจำเลย ๑ ปีและให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด ๕ ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้ปรึกษาโดยที่ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่าจำเลยเป็นจ่านายสิบตำรวจมีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าสถานีตรวจในท้องที่นั้น แม้จำเลยจะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ราษฎรในท้องถิ่นนั้นย่อมรู้จักจำเลยดีว่าเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุม ฉะนั้นการที่จำเลยพูดว่า ถ้าราษฎรคนใดไม่เชื่อฟังจำเลยและเลือกพรรคฝ่ายค้านแล้ว ให้ผู้ใหญ่บ้านจดชื่อส่งอำเภอ อาจถูกนับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์นั้น คำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นการขู่ให้ราษฎรเกิดความเกรงกลัวได้ ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาจึงมีมติว่า การกระทำของจำเลยเป็นการอุปการะแก่การเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคเสรีมนังคศิลา โดยจำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เลือกตั้ง ฯลฯ พิพากษายืน

Share