คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4566-4567/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์มีข้อความกำหนดให้ผู้รับจ้างจัดหาสิ่งของชนิดที่ดีใช้เครื่องมือดีและช่างผู้มีความรู้ความชำนาญและฝีมือดีมาดำเนินการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์สัญญามีกำหนดระยะเวลา12เดือนคู่สัญญาตกลงค่าจ้างซึ่งรวมทั้งค่าแรงงานและค่าสิ่งของตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน5,088,252บาทโดยผู้ว่าจ้างจะจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ424,021บาทสัญญาเช่นนี้เป็นสัญญาซึ่งผู้รับจ้างตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้างและผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้นจึงเป็นสัญญาจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา587สิทธิเรียกร้องค่าจ้างทำของจึงมีอายุความ2ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา165(1)(เดิม),193/34(1)(ใหม่)นับแต่วันที่เริ่มจะอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปของค่าจ้างแต่ละเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา169(เดิม),193/12(ใหม่)

ย่อยาว

สำนวนแรก โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างตามสัญญาจ้างบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเลยต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความเพราะเป็นหนี้อันเกิดจากมูลสัญญาจ้างทำของ
สำนวนหลัง จำเลยสำนวนแรกเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าปรับตามสัญญาจากโจทก์สำนวนแรก จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมิได้ผิดสัญญาฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยสำนวนแรกชำระค่าจ้างตามฟ้องแก่โจทก์ ยกฟ้องโจทก์สำนวนหลัง
จำเลย สำนวน แรก และ โจทก์ สำนวน หลัง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจ้างบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อ 1 กำหนดให้ผู้รับจ้างจัดหาสิ่งของชนิดที่ดี ใช้เครื่องมือดี และช่างผู้มีความรู้ ความชำนาญและฝีมือดีมาดำเนินการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์ ข้อ 2 ระบุว่า สัญญามีกำหนดระยะเวลา 12 เดือน คู่สัญญาตกลงค่าจ้างซึ่งรวมทั้งค่าแรงงานและค่าสิ่งของตลอดอายุสัญญาเป็นเงิน 5,088,252 บาท โดยผู้ว่าจ้างจะจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ 425,021 บาท สัญญาเช่นนี้ก็คือสัญญาซึ่งผู้รับจ้างตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้นจึงเป็นสัญญาจ้างทำของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587สิทธิเรียกร้องค่าจ้างทำของจึงมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) จำเลยที่ 1 ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2534 เรียกค่าจ้างทำของสำหรับเดือนกรกฎาคม2532 ถึงเดือนกันยายน 2532 รวม 3 เดือน เป็นเงิน 1,272,063 บาทค่าจ้างของเดือนกรกฎาคม 2532 และเดือนสิงหาคม 2532 จำเลยที่ 1ฟ้องคดีเกินกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2532 และวันที่1 กันยายน 2532 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มจะอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปของแต่ละเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 169 สิทธิเรียกร้องค่าจ้างทำของสำหรับเดือนกรกฎาคม 2532และเดือนสิงหาคม 2532 จึงขาดอายุความ ส่วนสิทธิเรียกร้องค่าจ้างทำของของเดือนกันยายน 2532 จำนวน 425,021 บาท ซึ่งอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2532 นั้น จำเลยที่ 1ฟ้องคดีในวันที่ 30 กันยายน 2534 จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ (จำเลยสำนวนแรก) ชำระเงินจำนวน 464,021 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่30 กันยายน 2532 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลยที่ 1(โจทก์สำนวนแรก) นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

Share