แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะจำเลยกระทำความผิดนั้น พระราชบัญญัติฝิ่นยังใช้บังคับอยู่ แต่ต่อมาในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 ยกเลิกพระราชบัญญัติฝิ่น เสียทั้งหมด แล้วกำหนดให้ฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 และการมีฝิ่นไว้ในความครอบครองกับการเสพฝิ่นยังเป็นความผิดอยู่ แต่ไม่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดจึงต้องใช้พระราชบัญญัติฝิ่นที่ใช้ในขณะ กระทำความผิดบังคับแก่คดี สำหรับการมีกล้องสูบฝิ่นไม่ปรากฏว่า พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2)พ.ศ. 2528 บัญญัติว่า เป็นความผิดการกระทำของจำเลยซึ่งเดิมเป็นความผิด จึงไม่เป็นความผิด อีกต่อไป จำเลยพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด
คำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีหนึ่งนั้น โจทก์ต้องขอมาในฟ้อง หรือขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 การที่โจทก์ เพิ่งมายื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นเมื่อศาลชั้นต้น พิพากษาคดีแล้ว และโจทก์อุทธรณ์คดีอยู่ระหว่างศาลชั้นต้นจะส่ง สำนวนไปศาลอุทธรณ์ โจทก์จึงขอไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีฝิ่น มีกล้องสูบฝิ่น และเสพฝิ่นโดยละเมิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 8, 34, 53, 53 ทวิ, 66, 69 ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 539/2526 ของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามข้อหาตามฟ้องยกคำร้องขอให้นับโทษต่อ
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นตามคำร้องของโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องอย่างไรก็ตาม ขณะจำเลยกระทำความผิด พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 พระราชบัญญัติฝิ่น(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2502 และพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2476 ยังใช้บังคับอยู่ แต่ต่อมาในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 ยกเลิกพระราชบัญญัติดังกล่าว แล้วใช้ความใหม่แทน พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2528 มาตรา 10 ได้กำหนดให้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นตามกฎหมายว่าด้วยฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 และการมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและการเสพฝิ่นยังถือว่าเป็นความผิดอยู่ แต่ไม่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดจึงต้องใช้พระราชบัญญัติฝิ่นที่ใช้ในขณะกระทำผิดบังคับแก่คดีตามหลักทั่วไปในประมวลกฎหมายอาญา สำหรับการมีกล้องสูบฝิ่นไม่ปรากฏว่าพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 บัญญัติว่าเป็นความผิด การกระทำของจำเลยซึ่งเดิมเป็นความผิด จึงไม่เป็นความผิดอีกต่อไป จำเลยพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง
ที่โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 539/2526 ของศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า คำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีหนึ่งโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง หรือขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 คดีนี้โจทก์เพิ่งมายื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้แล้ว และโจทก์อุทธรณ์คดีอยู่ระหว่างศาลชั้นต้นจะส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ โจทก์จึงขอไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหามีกล้องสูบฝิ่นโดยฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติฝิ่น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์