คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456-457/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทจำกัด มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นไป เมื่อได้กำไร กำไรนั้นต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65,65 ทวิและ 65 ตรี ด้วยเพราะถือว่าการซื้อขายทรัพย์สินดังกล่าวเป็นกิจการอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของบริษัท จึงเป็นกำไรที่ได้มาเนื่องจากกิจการของบริษัท

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน

โจทก์แต่ละสำนวนฟ้องว่า กรมสรรพากรได้แจ้งให้โจทก์เสียภาษีเงินได้สำหรับนิติบุคคลเพิ่มโดยถือว่าบริษัทโจทก์ได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีกำไร แต่มิได้นำมาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีโจทก์ได้อุทธรณ์การประเมิน แต่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ จึงขอให้สั่งเพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานประเมินและผู้วินิจฉัยอุทธรณ์

จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่าเงินที่โจทก์ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินกำไรที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่โจทก์กระทำ จึงต้องเสียภาษีตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน

โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การซื้อขายทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นกิจการอันอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของบริษัท การขายทรัพย์สินย่อมคำนวณกำไรและขาดทุนได้ กำไรที่ได้จากการขายทรัพย์สินของบริษัทในคดีนี้จึงเป็นกำไรที่ได้จากการกระทำของบริษัท และเป็นกำไรที่ได้มาเนื่องจากกิจการของบริษัท จึงต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร

พิพากษายืน

Share