คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456-457/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กลางคืนย่อมหมายความว่าเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนถึงพระทิตย์ขึ้น
ฟ้องว่ากระทำผิดในวันแรม 1 ค่ำเวลากลางคืนฟ้องหมายความว่ากระทำผิดในระหว่างเวลาพระทิตย์ตกและขึ้นของวันแรม 1 ค่ำ หากทางพิจารณาได้ความว่ากระทำผิดในระหว่างเวลาพระทิตย์ตกและขึ้นของวันขึ้น 15 ค่ำ แล้วต้องยกฟ้อง
อ้างฎีกาที่ 1272/2479

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อแรม ๑ ค่ำเวลากลางคืนจำเลยได้สมคบกันลักหรือรับกระบือไว้โดยรู้สึกว่าเป็นของร้าย ขอให้ลงโทษ
ตามทางพิจารณาได้ความว่ากระบือหายไปเมื่อคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามกฎหมายอาญา ม.๖(๒๔) บัญญัติไว้ว่า กลางคืนหมายความว่าเวลาระหว่างตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อโจทก์ทำกระบือหายเมื่อวันแรม ๑ ค่ำเวลากลางคืน ต้องหมายว่าเป็นเวลาพระอาทิตย์ตกในวันแรม ๑ ค่ำ ที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าวันหนึ่งต้องแบ่งกลางคืนออกเป็น ๒ ตอนนั้น ไม่เห็นชอบด้วย ไม่มีใครอาจเข้าใจว่าวันแรม ๑ ค่ำเวลากลางคืนหมายถึงเวลากลางคืนระหว่างวันขึ้น ๑๕ ค่ำและรุ่งขึ้นเช้าวันแรม ๑ ค่ำติดต่อกันดังศาลอุทธรณ์ตัดสินไว้ คดีนี้ตรงกับนัยฎีกาที่ ๑๒๗๒/๒๔๗๙ ที่ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น

Share