คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับระบุพยาน เพราะไม่ยื่นก่อนกำหนดวันสืบพยาน 3 วันคู่ความฝ่ายนั้นจึงยื่นคำร้องแถลงถึงความจำเป็นที่ไม่ได้ยื่นระบุพยานภายในกำหนด และขอให้อนุญาตให้ยื่นระบุพยานได้ดังนี้ ถือว่าเป็นการยื่นคำโต้แย้งคัดค้านตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา226(2) แล้ว
วันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88นั้นหมายความถึงวันสืบพยานจริงๆ ไม่ใช่วันนัดสืบพยานแล้วไม่ได้สืบพยาน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกสวนยางโจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์และใช้ค่าเสียหาย

ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 27 กันยายน 2489 จำเลยยื่นบัญชีพยานวันที่ 25 กันยายน 2489 ศาลมีคำสั่งไม่รับระบุพยาน เพราะไม่ยื่นระบุก่อนวันสืบพยานอย่างน้อย 3 วัน

วันที่ 26 กันยายน 2489 จำเลยยื่นคำแถลงอ้างถึงเหตุจำเป็นที่ยื่นระบุพยานตามกำหนดไม่ทัน จึงขอความกรุณาศาลให้จำเลยได้อ้างสืบพยาน ศาลส่งให้สำเนาให้โจทก์และให้แถลงภายใน 3 วัน ถึงวันนัดสืบพยานวันที่ 27 กันยายน 2489 ศาลติดการพิจารณาคดีอื่น มีคำสั่งเลื่อนคดีนี้ไปนัดสืบพยานวันที่ 16 ตุลาคม 2489 ครั้นถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2489 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลสั่งยืนยันตามเดิมว่าไม่อนุญาตให้จำเลยระบุอ้างพยาน แล้วสืบพยานโจทก์ไป 4 คนเลื่อนไปสืบในนัดหลังอีก 1 คน แล้วตัดสินคดีให้โจทก์ชนะ

จำเลยอุทธรณ์ขอให้สั่งศาลชั้นต้นให้จำเลยอ้างพยานและสืบพยานต่อไป

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลที่สั่งไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) จึงพิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นไม่รับระบุพยานของจำเลยรุ่งขึ้นจำเลยก็ยื่นคำร้องว่าได้ทราบคำสั่งและแถลงเหตุจำเป็นว่าควรอนุญาตให้จำเลยยื่นระบุพยานเรียกว่าได้ยื่นคำโต้แย้งคัดค้านไว้แล้ว ในที่สุดศาลสั่งไม่อนุญาตอีก ซึ่งเป็นการยืนยันตามเหตุการณ์เดิม ในตอนหลังจำเลยไม่จำเป็นต้องโต้แย้งซ้ำอีก เพราะได้โต้แย้งไว้แล้ว จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้

คำว่าวันสืบพยานตามมาตรา 88 นั้น มาตรา 1(10) ให้ความหมายไว้ว่าหมายถึงวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน คือวันที่สืบพยานจริง ๆ ไม่ใช่วันนัดสืบพยานแล้วไม่ได้สืบ ฉะนั้นเมื่อคดีนี้เลื่อนไปสืบพยานวันที่ 16 ตุลาคม 2489 ระบุพยานจำเลยจึงยื่นก่อนกำหนดสืบพยานถึง 20 วัน จึงรับไว้ได้

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลชั้นต้นรับระบุพยานแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปความ

Share