คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4546/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ยินยอมมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ให้โจทก์ทั้งสองยึดถือไว้เป็นประกันหนี้ของจำเลยที่มีต่อโจทก์ทั้งสอง เมื่อจำเลยยังเป็นหนี้โจทก์ทั้งสองอยู่ จำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) คืนจากโจทก์ทั้งสอง

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน ๓,๒๗๐,๒๙๓.๕๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงิน ๓,๒๒๙,๑๕๕ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การ แก้ไขคำให้การและฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์คืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์แก่จำเลย
โจทก์ทั้งสองให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยชำระหนี้ค่าสินค้ายังไม่ครบถ้วน โจทก์จึงมีสิทธิยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่จำเลยนำมาวางไว้เป็นประกันหนี้ได้ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๑,๖๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๒) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท ฟ้องแย้งของจำเลยให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนของฟ้องแย้งให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน ๓,๒๒๙,๑๕๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๒) ต้องไม่เกิน ๔๑,๑๓๘.๕๕ บาท ตามที่โจทก์ขอ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความ ๕,๐๐๐ บาท กับให้จำเลยใช้ค่าทนายความในศาลชั้นต้น ๑๐,๐๐๐ บาท แทนโจทก์ทั้งสอง ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์สำหรับฟ้องแย้งให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า… ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการสุดท้ายว่า โจทก์ทั้งสองต้องคืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์รวม ๓ ฉบับ ตามฟ้องแย้งให้แก่จำเลยหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทำหนังสือค้ำประกันหนี้ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๙ เพื่อค้ำประกันการซื้อสินค้าเงินเชื่อตามใบสั่งสินค้าเลขที่ ๑๗๗๐ รวมถึงหนี้ที่ก่อขึ้นหลังการทำสัญญา เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์รวม ๓ ฉบับ ให้โจทก์ทั้งสองยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามเอกสารหมาย ล. ๕ เห็นว่า จำเลยมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ทั้งสองเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ ตราบใดที่โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้รับชำระหนี้เสร็จสิ้นเชิง โจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิที่จะยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวไว้ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยค้างชำระค่าสินค้าโจทก์ทั้งสองตามที่วินิจฉัยแล้วในปัญหาประการแรก จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะขอให้บังคับโจทก์ทั้งสองคืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่จำเลย
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ทั้งสอง ๓,๐๐๐ บาท.

Share