แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาทั้งสองคดีในคดีแพ่งซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาแล้วว่าลูกหนี้ (จำเลย) กับพวกในฐานะผู้ค้ำประกันบริษัท ท. ลูกหนี้ชั้นต้น ต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ในคดีนี้ แม้คำพิพากษาในคดีแพ่งดังกล่าวลูกหนี้ในฐานะทายาทโดยธรรมของ ส. ผู้ตาย ต้องร่วมรับผิดแก่เจ้าหนี้ในทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ตกได้แก่ลูกหนี้ด้วยก็ตาม ลูกหนี้ก็ยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิดส่วนตนในฐานะลูกหนี้ร่วมกับผู้ค้ำประกันคนอื่นและบริษัท ท. ลูกหนี้ชั้นต้นเจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เต็มตามยอดหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งที่ค้างชำระมิใช่จำกัดเพียงจำนวนไม่เกินไปกว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ตกแก่ลูกหนี้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2544
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้คดีหมายเลขแดงที่ 9878/2543 และมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งคดีหมายแดงที่ ธ.18227/2543 เป็นเงินรวม 233,548,892.91 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเห็นควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเงินรวม 233,548,892.91 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 130 (7) โดยมีเงื่อนไขว่าลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกแก่ตน และหากเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากจำเลยร่วมในคดีหมายเลขแดงที่ 9878/2543 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้และคดีหมายเลขแดงที่ ธ. 18227/2543 ของศาลแพ่ง และ/หรือได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 7002 ตำบลคลองนครเนื่องเขตร์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วเพียงใด ให้สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ลดลงเพียงนั้นส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสีย
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้อุทธรณ์โต้แย้งฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2543 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 9878/2543 ให้บริษัทไทยแปดริ้วเปเปอร์ จำกัด จำเลยที่ 1 ชำระหนี้จำนวน 20,695,667.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โจทก์ โดยให้นายสุกรี โดยนายชุติภัทร ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน จำเลยที่ 2 นายชุติภัทร จำเลยที่ 3 นายอุดมจำเลยที่ 4 และนางสุดา จำเลยที่ 5 ร่วมรับผิดในต้นเงิน 20,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2543 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ธ.18227/2543 ให้บริษัทไทยแปดริ้วเปเปอร์ จำกัด จำเลยที่ 1 นางสุภา ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสุกรีจำเลยที่ 2 นายชุติภัทร ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสุกรี จำเลยที่ 3 นายชุติภัทร จำเลยที่ 4 นายอุดมจำเลยที่ 5 และนางสุดา จำเลยที่ 6 ร่วมกันชำระหนี้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โจทก์ จำนวน 169,272,695.79 บาท พร้อมดอกเบี้ย เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสุกรีให้รับผิดไม่เกินทรัพย์มรดกที่ได้รับ หากไม่ชำระให้บังคับทรัพย์สินจำนองออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 6 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้จนครบถ้วน มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของเจ้าหนี้เพียงว่า ลูกหนี้ต้องรับผิดตามคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้หรือไม่เพียงใด เห็นว่า ตามคำพิพากษาทั้งสองคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 9878/2543 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และให้คดีหมายเลขแดงที่ ธ. 18227/2543 ของศาลแพ่ง ศาลได้มีคำพิพากษาแล้วว่าลูกหนี้กับพวกในฐานะผู้ค้ำประกันบริษัทไทยแปดริ้วเปเปอร์ จำกัด ลูกหนี้ชั้นต้น ต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ตามฟ้องให้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าหนี้ในคดีนี้ แม้คำพิพากษาในคดีแพ่งดังกล่าวลูกหนี้ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสุกรีผู้ตาย ต้องร่วมรับผิดแก่เจ้าหนี้ในทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ตกได้แก่ลูกหนี้ด้วยก็ตาม ลูกหนี้ก็ยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิดส่วนตนในฐานะลูกหนี้ร่วมกับผู้ค้ำประกันคนอื่น และบริษัทไทยแปดริ้วเปเปอร์ จำกัด ลูกหนี้ชั้นต้นที่ต้องร่วมกันชำระหนี้ตามเงินต้นและดอกเบี้ยตามคำพิพากษาดังกล่าวให้แก่เจ้าหนี้จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เต็มตามยอดหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งที่ค้างชำระมิใช่จำกัดเพียงจำนวนไม่เกินไปกว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ตกแก่ลูกหนี้ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมีเงื่อนไขว่าลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกแก่ตนตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของเจ้าหนี้ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นเงินรวม 233,548,892.91 บาท หากเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองมรดกของนายสุกรี ผู้ตายและ/หรือได้รับชำระหนี้จากจำเลยร่วมอื่นในคดีหมายเลขแดงที่ 9878/2543 ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และคดีหมายเลขแดงที่ ธ.18227/2543 ของศาลแพ่ง และ/หรือได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนองแล้วเพียงใด ให้สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ลดลงเพียงนั้น ส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ