คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ บัญญัติเฉพาะ เพื่ออนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในประเด็นว่า ผู้ขอเป็นคนยากจนเท่านั้น หาได้ให้สิทธิแก่ผู้ขอที่จะขอให้ศาลพิจารณาใหม่ในประเด็นว่า คดีของผู้ขอมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วยไม่

ย่อยาว

จำเลยที่ ๔ ยื่นอุทธรณ์และขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า คดีของจำเลยที่ ๔ ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๕ ยกคำร้อง ฯลฯ จำเลยที่ ๔ มิได้อุทธรณ์คำสั่งฉบับนี้แต่ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้จำเลยที่ ๔ นำพยานหลักฐานมาสืบเพิ่มเติม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้มีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดแล้วว่าฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๔ ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ฉะนั้น จึงไม่ต้องพิจารณาอีกว่าจำเลยที่ ๔ ยากจนจริงหรือไม่ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๔ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตร ๑๕๖ วรรคสี่ ที่บัญญัติให้ผู้ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถามีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขออนาถาของตนใหม่ได้ ก็เฉพาะเพื่อนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในประเด็นว่า คดีของผู้ขอมีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ด้วยไม่ คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๒๒ ให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยที่ ๔ โดยวินิจฉัยว่า คดีของจำเลยที่ ๔ ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยที่ ๔ มิได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวภายใน ๗ วัน ย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖ วรรคสุดท้าย ประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่า คดีของจำเลยที่ ๔ ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ย่อมยุติ จำเลยที่ ๔ จะขอให้ศาลพิจารณาใหม่ในประเด็นดังกล่าวอีกมิได้ ส่วนประเด็นว่าจำเลยที่ ๔ เป็นคนยากจน หากศาลจะอนุญาตให้จำเลยที่ ๔ นำพยานหลักฐานสืบเพิ่มเติม คดีก็ต้องฟังตามข้อยุติว่าคดีของจำเลยที่ ๔ ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ศาลจะอนุญาตให้จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์อย่างคนอนาถาไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงชอบที่ยกคำร้องของจำเลยที่ ๔ ที่ขอให้พิจารณาคำขออนาถาใหม่เสียได้ โดยหาต้องทำการไต่สวนก่อนไม่
พิพากษายืน

Share