คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 446/2468

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่า ข.จำเลยที่ ๑ เป็นชู้กับ ค.จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นภรรยาโจทย์ ขอให้ปรับไหม ข.แลริบทรัพย์ ค.
ได้ความว่าเดิมโจทย์ได้ ค.เป็นอนุภรรยาโดยทางรักใคร่ได้เสียกันเองไม่มีทุนสินสอดขัดหมาก เกิดบุตร์ด้วยกัน ๓ คน เมื่อประมาณ ๑๐ ปีมาแล้วโจทย์กับ ค.ทะเลาะวิวาทกันขึ้นแล้วโจทย์ก็ละทิ้งมิได้กลับมาเลี้ยงดูอยู่กินกับ ค.อีกต่อมา ค.ได้ ม.เป็นสามีโจทย์ก็ทราบแต่มิได้ว่ากล่าวฤาฟ้องร้องประการใดจน บ.ตาย ภายหลัง ค.มาได้ ข.จำเลยที่ ๑ เป็นสามีดดยเปิดเผยประมาณเกือบปีแล้ว โจทย์จึงได้ฟ้องคดีนี้
ฎีกาวินิจฉัยว่า แม้สำนวนจะไม่ปรากฎว่าโจทย์กับ ค.ได้อย่ากันต่อหน้าเถ้าแก่ก็ดี แต่เหตุทั้งหลายเหล่านี้เป็นทางแสดงให้เห็นว่าโจทย์ได้สละละทิ้ง ค.โดยไม่นับว่าเป็นภรรยาแล้ว ก็เป็นอันขาดกันไปเองได้ไม่จำเป็นต้องอย่า จึงให้ยกฟ้องโจทย์ยืนตามศาลล่าง

Share