คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4457/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สาเหตุที่เกิดการทำร้ายกันขึ้นเนื่องจากพวกของจำเลยยกส้นเท้าใส่ผู้เสียหายจำเลยเดินถือมีดสำหรับปอกผลไม้ไม่ปรากฏขนาด เพราะไม่ได้มีดเป็นของกลางออกมาจากบ้านแทงผู้เสียหายหลายครั้ง ในทันทีทันใด มีบาดแผลที่ด้านหลังระดับเอว 2 แผล ลึกถึงภายในท้อง แต่ไม่ทำอันตรายอวัยวะภายในที่ตะโพกซ้าย 1 แผลแพทย์ลงความเห็นว่า ใช้เวลารักษาประมาณ 17 วัน พักต่ออีก 7 วัน ก็หายเป็นปกติดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาฆ่าคงผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายหลายครั้งโดยเจตนาฆ่าแต่แพทย์รักษาไว้ทัน ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส ต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนา และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวันตามรายงานการชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
จำเลยให้การรับว่าได้ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายจริง แต่ไม่มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 6 ปี 8 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 2 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ด้านหลังระดับเอว2 แผล ลึกถึงภายในท้องแต่ไม่ทำอันตรายอวัยวะภายใน ที่ตะโพกซ้าย 1 แผลแพทย์มีความเห็นว่า ถูกแทงด้วยวัตถุมีคมรุนแรงถึงอวัยวะภายในแต่ไม่ถูกส่วนสำคัญ ใช้เวลารักษาประมาณ 17 วัน พักต่ออีก 7 วัน ก็หายเป็นปกติ อาวุธที่ใช้เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้ ไม่ปรากฏขนาดเพราะไม่ได้มาเป็นของกลางสาเหตุเนื่องมาจากพวกของจำเลยยกส้นเท้าใส่ผู้เสียหาย แล้วจำเลยเดินถือมีดออกมาจากบ้านทำร้ายผู้เสียหายในทันทีทันใดโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยวางแผนหรือตระเตรียมการมาก่อน ลักษณะบาดแผลแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงหากจำเลยมีเจตนาฆ่า จำเลยก็มีโอกาสจะทำได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีผู้ใดขัดขวางเพราะขณะนั้นพวกผู้เสียหายไม่มีอาวุธอะไรติดตัว ตามพฤติการณ์แห่งคดีลักษณะบาดแผลและอาวุธที่ใช้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยแทงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า
พิพากษายืน

Share