แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดโดยอาศัยมูลหนี้จากการกระทำละเมิดและการผิดสัญญาฝากทรัพย์เพราะจ่ายเงินของโจทก์ให้ผู้อื่นไปโดยความประมาทเลินเล่อปราศจากความระมัดระวังและฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการธนาคารอันเป็นอาชีวะของจำเลยจึงมีอายุความ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164เดิมที่ใช้ขณะเกิดเหตุ
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ฝากเงิน ไว้ กับ ธนาคาร จำเลย ที่ 1 สาขา วงเวียน 22 กรกฎา มี ผู้ ลัก สมุดคู่ฝาก ของ โจทก์ และ นำ ไป เบิกเงิน จาก ธนาคาร จำเลย ที่ 1 สาขา วงเวียนใหญ่ จำเลย ที่ 4 ซึ่ง เป็น สมุห์บัญชี สาขา วงเวียนใหญ่ ประมาท เลินเล่อ ปราศจาก ความระมัดระวัง และ ฝีมือ เท่าที่ เป็น ธรรมดา จะ ต้อง ใช้ และ สมควร จะ ต้อง ใช้ ใน กิจการของ ธนาคาร อันเป็น อาชีวะ ของ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 กลับ ยอม ให้ มีผู้ ถอนเงิน จาก บัญชี ของ โจทก์ ทำให้ โจทก์ เสียหาย ขอให้ บังคับ จำเลยทั้ง สี่ ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน 216,250 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตราร้อยละ 7.5 ต่อ ปี จาก ต้นเงิน 200,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง จนกว่าจะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ทำนอง เดียว กัน ว่า โจทก์ เป็น ผู้ ไป ถอนเงินด้วย ตนเอง และ คดี ขาดอายุความ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 ร่วมกัน ชำระ เงินจำนวน 216,250 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปีใน ต้นเงิน จำนวน 200,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่า จะชำระ เสร็จ ให้ยก ฟ้องโจทก์ สำหรับ จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3
จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 1และ ที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ว่า คดี นี้ โจทก์ ฟ้อง ให้ จำเลย รับผิดโดย อาศัย มูลหนี้ จาก การกระทำ ละเมิด และ การ ผิดสัญญา ฝากทรัพย์เพราะ จ่ายเงิน ของ โจทก์ ให้ ผู้อื่น ไป โดย ความประมาท เลินเล่อ ปราศจากความระมัดระวัง และ ฝีมือ เท่าที่ เป็น ธรรมดา จะ ต้อง ใช้ และ สมควรจะ ต้อง ใช้ ใน กิจการ ธนาคาร อันเป็น อาชีวะ ของ จำเลย ที่ 1 จึง มี อายุความ10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม ที่ ใช้ใน ขณะ เกิดเหตุ เมื่อ เหตุ คดี นี้ เกิดขึ้น ใน วันที่ 5 มกราคม 2533โจทก์ ฟ้อง เมื่อ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2534 ยัง ไม่เกิน 10 ปี คดี โจทก์จึง ไม่ขาดอายุความ ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา มา นั้น ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วยฎีกา ของ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 ล้วน ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน