คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้-ให้กู้ฟ้องลูกหนี้ตามสัญญากู้แล้วยึดเรือนซึ่งลูกหนี้เอามาเป็นประกันเงินกู้ดังนี้เป็นการยึดตามสิทธิที่ผู้ให้กู้มีอยู่ตามข้อผูกพันในสัญญา แม้จะปรากฏว่าเรือนรายนั้นจะมิใช่เป็นของผู้กู้ ผู้ให้กู้ก็ยังไม่มีผิดทางอาญา วิธีพิจารณาความอาญางดสืบพะยานฎีกาอุทธรณ์ข้อกฎหมาย ข้อฎีกาการงดสืบพะยานชนิดใดเป็นข้อกฎหมาย

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ว่า ก.แล ม.กู้เงินไปจากจำเลย ผู้กู้เอาเรือน ๒ หลังให้เจ้าหนี้คือจำเลยยึดไว้เป็นประกัน โจทก์ผู้เป็นบุตร์ ก.ได้ลงชื่อเป็นพะยานในสัญญากู้นี้ด้วย ต่อมาจำเลยฟ้อง ม.ผู้กู้แล้วยึดเรือน ๒ หลังนี้ โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ หาว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าเรือนรายนี้เป็นของ ม. ผู้แพ้คดี ซึ่งจำเลยทราบความจริงแล้วว่าเป็นของโจทก์ ขอให้ลงโทษตาม ม.๑๑๘ แลโจทก์ว่าที่ได้ลงชื่อเป็นพะยานในสัญญากู้นั้นมิได้ทราบว่าได้เอาเรือนรายนี้เป็นประกัน
ศาลเดิมฟังคำพะยานโจทก์ปากเดียวแล้วงดสืบพะยานอื่น แลพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในข้อที่ศาลงดไม่สืบพะยานแลว่ารูปคดีเป็นความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จ
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยยึดตามสิทธิของจำเลยที่ผูกพันอยู่ในสัญญา จำเลยหามีผิดทางอาญาไม่ ที่ศาลเดิมไม่ฟังคำพะยานต่อไปนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share