แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยซึ่งขาดนัดพิจารณา อ้างว่าไม่ทราบหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องหมายนัดพิจารณาตลอดจน คำบังคับซึ่งส่งไปยังภูมิลำเนาของจำเลย เพราะเหตุไปค้าขายที่ต่างจังหวัดนั้น มิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 207 เมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลย จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและสัญญากู้เงิน จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 4,675,497.97 บาท พร้อมดอกเบี้ย และค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยไม่ชำระเงินตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดี
จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง เพราะจำเลยเดินทางไปต่างจังหวัด จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา หากจำเลยได้ต่อสู้คดีแล้วจำเลยต้องชนะคดีโจทก์ เนื่องจากจำเลยได้ชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยเพิ่งทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ เนื่องจากจำเลยกลับมาบ้านพบคำบังคับอยู่ที่หน้าบ้าน ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อพ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาว่าจำเลยต้องไปค้าขายต่างจังหวัดตลอดเวลานาน ๆ จะกลับบ้าน จึงไม่ทราบว่าถูกฟ้อง เมื่อไม่ทราบว่าถูกฟ้องจะถือว่าจำเลยทราบคำฟ้องไม่ได้ การที่จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อพ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลย จำเลยจึงถือว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ เห็นว่า ตามที่จำเลยบรรยายมานั้นเป็นอันชัดแจ้งว่าจำเลยยังคงมีภูมิลำเนาตามคำฟ้องไม่เปลี่ยนแปลง โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 หลังจากเสนอคำฟ้องแล้วได้ดำเนินคดีต่อมาด้วยการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง หมายนัดพิจารณา ตลอดจนคำบังคับไปยังภูมิลำเนาของจำเลย ซึ่งต้องถือว่าจำเลยได้รับทราบข้อความตามเอกสารดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยอ้างว่าไม่ทราบเพราะไปค้าขายต่างจังหวัด จึงมิใช่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.