คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่พนักงานสอบสวนรู้ว่าผู้ต้องหาปิดบังอาชีพและยศไว้โดยพนักงานสอบสวนมิได้ท้วงติงนั้นไม่ถือว่าเป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักเล่นการพนันไพ่เผ จำเลยให้การปฏิเสธและกล่าวอ้างว่าคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเกิดขึ้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่หลอกลวง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน 2478มาตรา 4, 10, 12 (ฉบับที่ 4) 2485 มาตรา 3, 4 (ฉบับที่ 5) 2490 มาตรา 3 ปรับ 300 บาท ลดรับสารภาพชั้นสอบสวนลง 1 ใน 3 ปรับ 200 บาท ไม่ชำระค่าปรับบังคับตาม มาตรา 29, 30 และให้จำเลยจ่ายค่านำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ

จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า พนักงานสอบสวนทราบว่าจำเลยเป็นทหารประจำการและเป็นสิบเอกแต่จำเลยให้การว่ามีอาชีพทางรับจ้างและลงชื่อในบันทึกการจับกุมโดยไม่ได้ลงอักษรย่อ ส.อ.พนักงานสอบสวนไม่ท้วงติ่งเป็นการหลอกลวงจูงใจให้จำเลยรับสารภาพ

ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า จำเลยในคดีอาญาย่อมมีสิทธิที่จะให้การอย่างไรหรือไม่ให้การก็ได้ถึงแม้พนักงานสอบสวนจะรู้ว่าจำเลยปิดบังอาชีพและยศไว้ ก็ไม่ใช่เป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 135

Share