คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4395/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ทำสัญญาจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีที่จำเลยที่ 1 ทำไว้กับธนาคารโจทก์ สัญญาจำนองระบุให้ผู้จำนองชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ตกลงส่งดอกเบี้ยเดือนละหนึ่งครั้งมิได้ระบุให้คิดดอกเบี้ยทบต้น แม้ในสัญญาจำนองต่อท้ายข้อ 2 จะระบุว่าผู้จำนองยอมให้ผู้รับจำนองคำนวณดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ผิดนัดค้างชำระทบต้นเข้าในบัญชีของลูกหนี้และผู้จำนองยอมรับผิดชดใช้เงินดอกเบี้ยนี้ด้วยก็ตาม เป็นเรื่องการคำนวณยอดหนี้ที่ผู้จำนองต้องรับผิด มิใช่ระบุให้โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้นเอากับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ผู้จำนอง
สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีสิ้นสุดลงในวันที่ 20 เมษายน 2524 ซึ่งเป็นวันที่ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงต้องรับผิดในดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป มิใช่ให้รับผิดชำระดอกเบี้ยนับแต่วันถัดจากวันฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมาทำจำนองเป็นประกัน เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจำเลยไม่ชำระหนี้ โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ย หากไม่ชำระให้บังคับจำนอง

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดในวงเงินไม่เกิน 80,000 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย ตามสัญญาจำนอง โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้น ดอกเบี้ยจึงเป็นโมฆะ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้องหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระให้บังคับขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จำนอง หากไม่พอชำระให้บังคับจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 2, ที่ 3 จนกว่าจะครบจำนวนหนี้

จำเลยที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับจำนองเป็นเงิน 80,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจำนองเอกสารหมาย จ.4 ระบุให้ผู้จำนองชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ตกลงส่งดอกเบี้ยเดือนละหนึ่งครั้ง มิได้ระบุให้คิดดอกเบี้ยทบต้น แม้ในสัญญาจำนองต่อท้ายข้อ 2 จะระบุว่าผู้จำนองยอมให้ผู้รับจำนองคำนวณดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ผิดนัดค้างชำระทบต้นเข้าในบัญชีของลูกหนี้ และผู้จำนองยอมรับผิดชดใช้เงินดอกเบี้ยนี้ด้วยก็ตาม เป็นเรื่องการคำนวณยอดหนี้ที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ต้องรับผิดมิใช่ระบุให้โจทก์คิดดอกเบี้ยทบต้นเอากับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ผู้จำนองที่ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีโดยไม่ทบต้นจึงถูกต้องแล้ว แต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในต้นเงินและดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องตอนหนึ่งและให้รับผิดในดอกเบี้ยนับแต่วันถัดจากวันฟ้องต่อไปอีกตอนหนึ่งที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง จึงยังไม่ถูกต้องข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีสิ้นสุดลงในวันที่ 20 เมษายน 2524 ซึ่งเป็นวันที่ถือว่า จำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงต้องรับผิดในดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2, ที่ 3 ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันที่ 20 เมษายน 2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share