คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ที่เป็นความผิดอันยอมความได้นั้น เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายขอถอนฟ้องชั้นฎีกา และศาลฎีกาสั่งอนุญาตแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไป คำพิพากษาศาลล่างก็ย่อมระงับไปด้วยในตัวไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างซึ่งให้ลงโทษจำเลยไว้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานโจทก์เบิกความแตกต่างขัดกันเอง ไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๑ ปี
จำเลยฎีกา
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้าน
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วได้ความว่า กรณีความผิดในคดีนี้เป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๕ วรรค ๒ และคดีนี้จำเลย ต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำคุกที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเมื่อศาลฎีกาได้อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องสิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไป คำพิพากษาศาลล่างก็ย่อมระงับไปด้วยในตัวไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างซึ่งให้ลงโทษจำเลยไว้ นั้น
อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ ให้จำหน่ายคดี

Share