คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรม เป็นผู้รับมรดกที่ดินของบิดาโจทก์ ซึ่งถือแก่กรรมไปแล้ว
และว่า ถ้าจำเลยได้ทำสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับผู้อื่นแล้ว ขอให้ทำลายเอกสารเสียด้วย แต่โจทก์มิได้ฟ้องผู้รับโอนที่ดินรายนั้นจากจำเลยเป็นจำเลยด้วยไม่ ดังนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินนั้น เป็นของบิดาโจทก์ตกได้แก่โจกท์ ศาลก็ไม่ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาโอนกรรมสิทธิอันเป็นผลเลยไปถึงบุคคลภายนอก ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วย./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินพิพาทเป็นของบิดาโจทก์ๆ ตาย ที่พิพาทจึงตกเป็นของโจทก์ เมื่อประมาณ ๓ เดือนมานี้ จำเลยเอาที่
พิพาทไปแบ่งปันให้พวกพ้องของจำเลยโดยไม่มีอำนาจ จึงขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นทายาทผู้รับมรดก ถ้าจำเลยได้ทำ
สัญญาโอนกรรมสิทธิที่พิพาทให้ผู้อื่น ก็ขอให้ทำลายเอกสารนั้นเสียและห้ามจำเลยกับพวกเกี่ยวข้องกับที่พิพาท
จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย.
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนทำลายหนังสือที่จำเลยตกลงแบ่งนา พิพาทกับนางสาวสุ่น ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ดินพิพาทเป็นของบิดาโจทก์ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นทายาทโดยธรรม เป็นผู้รับมรดกของบิดา และว่าถ้าจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับผู้อื่นแล้ว ก็ขอให้ทำลายเอกสารเสียด้วย แต่โจทก์หาได้ฟ้องผู้รับโอนที่ดินรายนี้จากจำเลย เป็นจำเลยด้วยไม่ จึงไม่ชอบที่จะพิพากษาเลย ไปถึงบุคคลภายนอกซึ่งไม่ได้ เป็นคู่ความจึงพิพากษาแก้ว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมผู้รับ
มรดกของนายฮ่องกาวตามที่โจทก์ขอมา ส่วนที่ขอว่าถ้าจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับผู้อื่น ขอให้ทำ
ลายเอกสารเสียด้วยนั้น โจทก์ไม่ได้ฟ้องผู้รับโอนด้วย จึงไม่บังคับให้ตามที่ขอมา.

Share