แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เฉพาะเรือยนต์หางยาวเช่นเรือยนต์หางยาวของกลางคดีนี้เป็นเรือที่รู้จักกันอยู่ทั่วไปว่าเป็นเรือเล็กๆ ไม่ใหญ่โตชนิดหนึ่งใช้วิ่งรับส่งในแม่น้ำลำคลองโดยข้อเท็จจริงไม่มีทางจะฟังว่าเป็นเรือมีระวางบรรทุกเกิน 250 ตัน ได้เลยฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้กันอยู่ทั่วไปดังกล่าว ถึงแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่ามีระวางบรรทุกเท่าใดศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องของกลางคดีนี้ มีระวางบรรทุกไม่เกิน 250 ตัน เมื่อจำเลยนำไปใช้ในการขนของที่ยังมิได้เสียภาษี จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ.2469 มาตรา 32 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2509)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพ ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันถังน้ำมันใส่เรือหางยาวข้ามจากสุวรรณเขต ประเทศลาวเข้ามายังตำบลมุกดาหาร ประเทศไทย โดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และเจตนาฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จับจำเลยได้พร้อมด้วยถังน้ำมันและเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่อง 1 ลำ ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27 ; (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 6, 17, 16 ; (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ลดรับสารภาพ ปรับจำเลยที่ 1เป็นเงิน 270 บาท รับถังน้ำมัน แต่เรือยนต์หางยาวตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีระวางบรรทุกเท่าใด ไม่ริบจำเลยที่ 2 อายุไม่เกิน 14 ปี ว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวไป
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบเรือหางยาว พร้อมด้วยเครื่องยนต์ของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เฉพาะเรือยนต์หางยาวเช่นเรือยนต์หางยาวของกลางคดีนี้ เป็นเรือที่รู้จักกันอยู่ทั่วไปว่าเป็นเรือเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โตชนิดหนึ่งซึ่งไว้วิ่งรับส่งในแม่น้ำลำคลองโดยข้อเท็จจริงไม่มีทางที่จะฟังว่าเป็นเรือมีระวางบรรทุกเกิน 250 ตันได้เลย ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้กันอยู่ทั่วไปดังกล่าว ถึงแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่ามีระวางบรรทุกเท่าใดศาลมีอำนาจรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า เรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องของกลางในคดีนี้มีระวางบรรทุกไม่เกิน 250 ตัน เมื่อจำเลยนำไปใช้ในการขนของที่ยังมิได้เสียภาษี จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 32
พิพากษาแก้ ให้ริบเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องยนต์ของกลางนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามเดิมทุกประการ