คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4343/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยซื้อเฮโรอีนของกลางจาก อ. มาให้สายลับตามที่สายลับร้องขอ โดยมิได้มีข้อเท็จจริงอื่นใดมานำสืบว่าจำเลย ได้ผลประโยชน์ทั้งจากฝ่ายผู้ขายหรือฝ่ายขอให้ไปซื้อ จึงเป็นการซื้อแทนสายลับ เฮโรอีนของกลางที่ซื้อได้เป็นของ สายลับผู้ซื้อที่แท้จริงตั้งแต่แรกมิใช่เป็นของจำเลย จำเลยนำเฮโรอีนเพื่อมอบให้สายลับจึงเป็นการส่งมอบคืน ให้แก่สายลับมิใช่เพื่อให้เฮโรอีนแก่สายลับ ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างว่าไปทำการล่อซื้อเพื่อ ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการจับกุม อ. ผู้จำหน่าย เป็นข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับข้อนำสืบของเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้วางแผนการจับกุม ข้อนำสืบของจำเลยปราศจากพยานหลักฐาน สนับสนุน จึงเป็นเพียงคำปฏิเสธลอย ๆ ที่ไม่มีน้ำหนัก ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่าครอบครองเฮโรอีนแทนผู้อื่นนั้น การครอบครองแทนคือการครอบครองลักษณะหนึ่งซึ่งอาจมีผลต่อ ทางกฎหมายส่วนแพ่งแต่ในส่วนกฎหมายอาญาไม่มีบทบัญญัติ ก่อให้เกิดผลต่างเป็นข้อจำกัดความรับผิดหรือเป็นข้อยกเว้นโทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 16 วรรคแรก(ที่ถูกเป็นมาตรา 15 วรรคแรก), 66 วรรคแรก จำคุก 5 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคแรก, 67จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว สำหรับปัญหาที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบสรุปได้ว่าจำเลยได้ซื้อเฮโรอีนของกลางจากนายอุบลมาให้สายลับตามที่สายลับขอร้องเท่านั้น โดยมิได้มีข้อเท็จจริงอื่นใดมานำสืบว่าจำเลยได้ผลประโยชน์จากการนี้แต่ประการใด ทั้งจากฝ่ายผู้ขายหรือฝ่ายขอให้ไปซื้อ จึงต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่าที่จำเลยไปซื้อเฮโรอีนของกลางจากนายอุบลนั้น เป็นการซื้อแทนสายลับ เฮโรอีนของกลางที่ซื้อได้เป็นของสายลับผู้ซื้อที่แท้จริงตั้งแต่แรกมิใช่เป็นของจำเลยที่จำเลยนำเฮโรอีนเพื่อมอบให้สายลับนั้นจึงเป็นการส่งมอบคืนให้แก่สายลับซึ่งมิใช่เพื่อให้เฮโรอีนแก่สายลับดังที่อ้างฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนฎีกาจำเลยที่ขอให้ยกฟ้องโจทก์ตลอดจนข้อหามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองด้วยนั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างว่าไปทำการล่อซื้อเพื่อช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการจับกุมนายอุบล ผู้จำหน่ายนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับข้อนำสืบของเจ้าพนักงานตำรวจผู้วางแผนการจับกุม ทั้งข้อนำสืบของจำเลยนี้ยังปราศจากพยานหลักฐานสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายลับหรือเจ้าหน้าที่ผู้ที่จำเลยอ้างว่าเป็นผู้ขอให้จำเลยไปช่วยล่อซื้อนั้นมายืนยันจึงเป็นเพียงคำปฏิเสธลอย ๆ ที่ไม่มีน้ำหนัก ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยที่อ้างว่าครอบครองเฮโรอีนของกลางแทนผู้อื่นนั้นการครอบครองแทนก็คือการครอบครองลักษณะหนึ่งซึ่งอาจมีผลต่อทางกฎหมายส่วนแพ่ง แต่ในส่วนกฎหมายอาญาหาได้มีบทบัญญัติก่อให้เกิดผลต่างเป็นข้อจำกัดความรับผิดหรือเป็นข้อยกเว้นโทษ แต่ประการใดไม่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน

Share