แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 ผู้จัดการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าพิพาทจากโจทก์นำไปใช้ในกิจการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 2จะทำเกินอำนาจตัวแทน แต่การซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1ก็ไม่เคยมีหนี้สินติดค้างกันมาก่อน การซื้อขายสินค้าพิพาทนี้มีมูลเหตุทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าพิพาทได้ภายในขอบอำนาจ จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชำระราคาสินค้าพิพาทให้แก่โจทก์ ส่วนเรื่องที่จำเลยที่ 2 ปฏิบัติผิดระเบียบของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องภายในที่จะต้องไปว่ากล่าวกันเอง หาเกี่ยวข้องกับโจทก์ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ชำระเงินค่าซื้อสินค้าจำเลยที่ 1 ให้การว่า ไม่เคยซื้อสินค้าตามฟ้อง จำเลยที่ 3 ให้การว่าซื้อตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 ไปใช้ในกิจการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1ไม่ต้องรับผิดจำเลยที่ 2 และที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 สั่งซื้อสินค้าพิพาทจากโจทก์นำไปใช้ในกิจการเหมืองเจิงเจ้ย ของจำเลยที่ 1และรับมอบสินค้าพิพาทจากโจทก์แล้ว แต่ยังไม่ได้ชำระราคา มีปัญหาต่อไปว่า จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2เป็นผู้จัดการเหมืองเจิงเจ้ยของจำเลยที่ 1 มีอำนาจบริหารกิจการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 รวมทั้งการจัดซื้อสิ่งของต่าง ๆอันเป็นอุปกรณ์การทำเหมืองแร่ไปใช้ในเหมืองแร่เจิงเจ้ย สินค้าพิพาทที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อก็เป็นชนิดประเภทเดียวกันกับสินค้าในใบเสร็จรับเงิน เอกสารหมาย ล.1 ถึง ล.4 ใบสั่งซื้อเอกสารหมาย ล.6และใบรับของเอกสารหมาย ล.7 ซึ่งโจทก์ได้ติดต่อค้าขายกับจำเลยที่ 1มานาน 5-6 ปีแล้ว ในทางปฏิบัติจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าราคาไม่เกิน 10,000 บาท ด้วยเงินสดได้เอง การสั่งซื้อตั้งแต่10,000 บาท ถึงจำนวน 400,000 บาท ต้องซื้อโดยวิธีสอบราคาโดยจำเลยที่ 1 มิได้เข้าไปเกี่ยวข้องเพียงแต่มีการตรวจสอบทางบัญชีก่อนแม้จำเลยที่ 2 จะทำเกินอำนาจตัวแทน แต่การซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็ไม่เคยมีหนี้สินติดค้างกัน เพิ่งเกิดหนี้สินกันในสินค้าพิพาทนี้เท่านั้น การซื้อขายสินค้ารายพิพาทกันนี้ก็มีมูลเหตุทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าพิพาทได้ภายในขอบอำนาจของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระราคาสินค้าพิพาทให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ส่วนเรื่องที่จำเลยที่ 2 ปฏิบัติผิดระเบียบของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องภายในที่จะต้องไปว่ากล่าวกันเอง หาเกี่ยวกับโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่สำหรับดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องมา จำเลยที่ 1 อ้างว่าไม่ต้องรับผิดเพราะไม่ได้เป็นหนี้ดังฟ้อง เห็นว่า โจทก์เรียกเอาค่าสินค้าพิพาทที่มอบของให้จำเลยที่ 2 แล้ว ค่าสินค้าดังกล่าวซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ เมื่อโจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยที่ 1ไม่ชำระหนี้ จำเลยที่ 1 จึงตกเป็นผู้ผิดนัดตั้งแต่วันที่ 14มิถุนายน 2526 ตามหนังสือทวงถามและใบตอบรับ เอกสารหมาย จ.21,จ.22 ที่ศาลล่างกำหนดให้จำเลยที่ 1 รับผิดในดอกเบี้ยนับแต่วันที่9 มิถุนายน 2526 นั้น ไม่ถูกต้องสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บางส่วน ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ใช้ดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 14มิถุนายน 2526 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์