แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทฟ้องว่าจำเลยเปนผู้ร้ายลักทรัพย์หรือมิฉนั้นรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเปนของร้ายขอไห้ลงโทสตามมาตรา 293,321  นั้น  นับว่าเปนฟ้องขัดกันเองลงโทสจำเลยไม่ได้.
อ้างดีกาที่ 722/2481
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ ๒๐,๒๑ กันยายน  ๒๔๘๕ เวลากลางคืนจำเลยสมคบกันลักเรือไป ๓ ลำ  หรือจำเลยรับเรือไว้โดยรู้ว่าเปนเรือที่นายบุญเรืองจำเลยลักมาขอไห้ลงโทสตามมาตรา ๒๙๓,๓๒๑
จำเลยไห้การปติเสธต่อสู้ว่า  ได้ซื้อเรือของกลางไว้จากนายบุญเรืองโดยเปิดเผยและสุจริต.
สาลชั้นต้นยกฟ้องโดยข้อเท็ดจิง
สาลอุธรน์เห็นว่าฟ้องขัดกันไนตัวไห้ยกฟ้อง.
โจทดีกา  สาลดีกาเห็นว่าฟ้องของโจทยืนยันมาแต่ต้นว่าจำเลยเปนผู้ร้ายลักทรัพย์รายนี้  พายหลังจึงกล่าวว่ามิฉนั้นจำเลยสมคบกันรับทรัพย์รายนี้ไว้โดยรู้ว่าเปนของร้าย  ข้อความจึงขัดแย้งกัน  จำเลยไม่อาดเข้าไจข้อหาได้ดี  เปนฟ้องที่ไม่ชอบ  จึงพิพากสายืนตามสาลอุทธรน์.

