คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทฟ้องว่าจำเลยเปนผู้ร้ายลักทรัพย์หรือมิฉนั้นรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเปนของร้ายขอไห้ลงโทสตามมาตรา 293,321 นั้น นับว่าเปนฟ้องขัดกันเองลงโทสจำเลยไม่ได้.
อ้างดีกาที่ 722/2481

ย่อยาว

โจทฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ ๒๐,๒๑ กันยายน ๒๔๘๕ เวลากลางคืนจำเลยสมคบกันลักเรือไป ๓ ลำ หรือจำเลยรับเรือไว้โดยรู้ว่าเปนเรือที่นายบุญเรืองจำเลยลักมาขอไห้ลงโทสตามมาตรา ๒๙๓,๓๒๑
จำเลยไห้การปติเสธต่อสู้ว่า ได้ซื้อเรือของกลางไว้จากนายบุญเรืองโดยเปิดเผยและสุจริต.
สาลชั้นต้นยกฟ้องโดยข้อเท็ดจิง
สาลอุธรน์เห็นว่าฟ้องขัดกันไนตัวไห้ยกฟ้อง.
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าฟ้องของโจทยืนยันมาแต่ต้นว่าจำเลยเปนผู้ร้ายลักทรัพย์รายนี้ พายหลังจึงกล่าวว่ามิฉนั้นจำเลยสมคบกันรับทรัพย์รายนี้ไว้โดยรู้ว่าเปนของร้าย ข้อความจึงขัดแย้งกัน จำเลยไม่อาดเข้าไจข้อหาได้ดี เปนฟ้องที่ไม่ชอบ จึงพิพากสายืนตามสาลอุทธรน์.

Share