แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ท้ากันให้ตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ค้ำประกันในเอกสารที่โจทกอ้างเทียบเคียงกับลายเซ็นตัวอย่างของจำเลยว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือกล่าวทำนองยืนยันว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันแล้ว จำเลยยอมแพ้ หากปฏิเสธหรือกล่าวทำนองปฏิเสธ โจทก์ยอมแพ้ เมื่อผู้ตรวจพิสูจน์ลงความเห็นว่า น่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน ดังนี้ถือว่า มีลักษณะเป็นการยืนยันหรือทำนองยืนยัน ตรงตามคำท้าของคู่ความแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ในฐานะผู้กู้ จำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้ค้ำประกันให้ร่วมกันใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การรับตามผ้องแต่จำเลยที่ ๒ ปฏิเสธว่า สัญญากู้และสัญญาค้ำประกันปลอม
โจทก์และจำเลยที่ ๒ ตกลงท้ากันให้กอบพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจตรวจพิสูจน์ลายเซ็น “มะณี สุวรรณพันธ์” ในช่องผู้ค้ำประกันในเอกสาร จ.๒ กับลายเซ็นตามที่จำเลยที่ ๒ รับ (ว่าเป็นของจำเลยที่ ๒ ) และเซ็นต่อหน้าศาลว่าเป็นลายเซ็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เชี่ยวชาญกรมตำรวจยืนยันหรือกล่าวทำนองยืนยันว่าเป็นของบุคคลคนเดียวกันแล้ว จำเลยที่ ๒ ยอมแพ้ หากปฏิเสธหรือกล่าวทำนองปฏิเสธแล้ว โจทก์ยอมแพ้คดี หากกล่าวไม่แน่นอนจะฟังให้เป็นประการใดแล้ว ขอให้สืบพยานต่อไป
กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจตรวจพิสูจน์แล้วรายงานว่า “น่าเชื่อว่าลายมือชื่อที่เป็นปัญหาในเอกสารหมาย จ.๒ กับลายมือชื่อของนางมะณี สุวรรณพันธ์ จำเลยที่เซ็นไว้ในเอกสารต่าง ๆ เป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน”
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำท้า
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า การตรวจพิสูจน์ ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจพิจารณาลงความเห็นตามหลักวิชาว่าน่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน เช่นนี้ การตรวจพิสูจน์ลงความเห็นมีลักษณะเป็นคำยืนยันหรือทำนองยืนยันตรงตามคำท้าของคู่ความแล้ว จำเลยที่ ๒ จึงต้องแพ้คดีตามคำท้า พิพากษายืน.