คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อนมีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบแม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่าอำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุรา ดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฎหมายคดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลางศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราพิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฎหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อนมีแอลกอฮอล์ สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน แก้ไขเพิ่มเติม 2476 มาตรา 8

ศาลชั้นต้นปรับ 200 บาท ตามฟ้องของกลางริบ

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า ของกลางเป็นน้ำสุรา แต่ของกลางให้ริบ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ไม่ได้นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางรายนี้เข้าสืบ แม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ส่งศาล คงมีพยานปากหนึ่งซึ่งมิใช่เป็นผู้ตรวจพิสูจน์มาเบิกความว่า “อำเภอได้พิสูจน์แล้วว่ามีดีกรีกินได้เช่นเดียวกับสุรา” ดังนี้ ยังไม่พอชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา คดีลงโทษจำเลยไม่ได้ จึงพิพากษายืนในข้อยกฟ้องส่วนเรื่องของกลางให้ยกเสียเพราะยังชี้ขาดไม่ได้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย

Share