คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4311/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 3237 ด้วยการประมูลกันเอง หากตกลงราคาไม่ได้ให้ขายทอดตลาดนำเงินแบ่งกันตามส่วนนั้น เมื่อจำเลยผู้ประมูลได้ไม่นำเงินมาชำระตามที่ประมูลได้ ต้องถือว่าเป็นกรณีที่โจทก์และจำเลยประมูลราคากันเองไม่ได้ จะต้องนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วน โจทก์ไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินอื่นของจำเลยเพื่อบังคับคดีแต่อย่างใด

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินเลขที่ 3237 ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการประมูลราคากันเอง หากตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนคดีถึงที่สุดแล้ว ต่อมาโจทก์จำเลยประมูลที่ดินดังกล่าวซึ่งมีเนื้อที่ 18 ไร่ 68 ตารางวากันเอง ผลปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ในราคาไร่ละ 350,000 บาท เป็นเงิน 6,359,500 บาท โดยโจทก์และจำเลยมีส่วนได้ในที่ดินดังกล่าว 1 ส่วน และ 2 ส่วนตามลำดับส่วนได้ของโจทก์คิดเป็นเงิน 2,083,238 บาท และจำเลยจะต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมการขายในอัตราร้อยละ 3 เป็นเงิน 190,785 บาทด้วยปรากฏว่าจำเลยไม่นำเงินมาชำระเลย โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 3554, 3556, 3581 ตำบลเตาเหล้า (เต่าเล่า)อำเภอเสนากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเลขที่ 17962 ตำบลแก้วฟ้า (เต่าเล่า) อำเภอบางซ้าย (เสนากลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระส่วนได้ของโจทก์และค่าธรรมเนียมการขายที่ดินดังกล่าวต่อไป จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่ยึดดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามที่จำเลยฎีกาเป็นข้อแรกว่า เมื่อจำเลยไม่ติดใจวางเงินตามที่ประมูลได้ในการประมูลราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 3237 ตำบลแก้วฟ้าอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยากันเองระหว่างโจทก์กับจำเลยต้องถือว่าการประมูลนั้นยกเลิกและต้องบังคับคดีโดยนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดต่อไป โดยโจทก์ไม่มีอำนาจบังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่นของจำเลยหรือไม่ ในปัญหานี้ เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 3237ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วยการประมูลราคากันเอง หากตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วน การบังคับคดีนี้จึงต้องดำเนินการบังคับคดีให้ถูกต้องตามขั้นตอนของคำพิพากษานั้นโดยต้องแบ่งที่ดินดังกล่าวด้วยการประมูลราคากันเองระหว่างโจทก์กับจำเลยก่อนต่อเมื่อตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้แล้วจึงบังคับคดีด้วยการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนต่อไป การบังคับคดีในการแบ่งที่ดินดังกล่าวระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยวิธีการตกลงประมูลราคากันเองได้นั้น หมายความว่าโจทก์และจำเลยประมูลราคาที่ดินกันแล้วผู้ประมูลได้ ได้ปฏิบัติตามที่ประมูลได้นั้นจนเสร็จสิ้น ซึ่งเมื่อโจทก์และจำเลยได้แบ่งที่ดินดังกล่าวกันเช่นนี้ได้แล้ว ก็ไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดีด้วยวิธีการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนอันเป็นขั้นตอนต่อไปของการบังคับคดีอีก แต่หากโจทก์และจำเลยตกลงประมูลราคาที่ดินกันเอง แล้วผู้ประมูลได้ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ประมูลได้นั้นจนเสร็จ ก็ต้องถือว่าเป็นกรณีที่โจทก์และจำเลยตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ และต้องดำเนินการบังคับคดีนี้ด้วยวิธีการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนต่อไป ดังนั้นเมื่อจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ในการประมูลราคากันเองระหว่างโจทก์และจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามที่ประมูลได้ โจทก์จึงต้องบังคับคดีนี้ด้วยการนำที่ดินโฉนดเลขที่ 3237 ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกขายทอดตลาดแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นต่อไป โจทก์ไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินอื่นของจำเลยเพื่อบังคับคดีนี้แต่อย่างใดที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้นและเมื่อได้วินิจฉัยเช่นนี้แล้วก็ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยอีกต่อไป”
พิพากษากลับ ให้ปล่อยที่ดินโฉนดเลขที่ 3554, 3556, 3581ตำบลเตาเหล้า (เต่าเล่า) อำเภอเสนากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและที่ดินโฉนดเลขที่ 17962 ตำบลแก้วฟ้า (เต่าเล่า) อำเภอบางซ้าย(เสนากลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คืนจำเลย

Share