คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยจัดให้มีการเล่น และเล่นการพนันไพ่ผ่องไทย พนันเอาทรัพย์สินกัน มิได้รับอนุญาต โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยที่อ้างเป็นความผิด ตลอดจนระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งจำเลยกระทำผิดแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้ระบุถึงทรัพย์สินที่เอาออกพนันและไพ่ผ่องไทยที่ใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะพอจะเข้าใจได้แล้วว่า เครื่องมือที่ใช้ในการเล่นก็คือไพ่ผ่องไทย ทรัพย์สินที่พนันก็อาจเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่นซึ่งเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบต่อไป ฟ้องโจทก์จึงไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา
158(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่๑ มีนาคม ๒๕๐๗ เวลากลางวันจำเลยในคดีนี้กับพวกที่หลบหนีไปบังอาจสมคบกันเล่นการพนันไพ่ผ่องไทยอันเป็นการพนันประเภทไพ่ต่าง ๆ ตามบัญชี ข. หมายเลข ๒๑ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกัน โดยจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นขึ้น เพื่อเป็นทางนำมาเพื่อผลประโยชน์แห่งตนและเป็นผู้เล่นพนันด้วย ส่วนจำเลยอื่นนอกนั้นเป็นผู้เข้าเล่นพนัน ทั้งนี้โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตามวันเวลาดังกล่าวเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนันฯและสั่งริบของกลาง และให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับ
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์และวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ปรากฎว่าเจ้าพนักงานจับของกลางได้ เป็นต้นว่า ทรัพย์สินที่จำเลยเอาออกพนัน ไพ่ผ่องไทยที่จำเลยใช้เป็นเครื่องมือในการเล่น ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้อง ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕)
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ถ้าเจ้าพนักงานจับของกลางไม่ได้พร้อมกับตัวจำเลย โจทก์ก็ไม่มี่ข้อความดังนี้มาบรรยายในคำฟ้อง ฟ้องของโจทก์มีข้อความครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธี่พิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ แล้ว พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาคดีแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายการกระทำของจำเลยที่อ้างว่าเป็นความผิด คือจำเลยสมคบกันเล่นการพนันไพ่ผ่องไทยพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่รับอนุญาตโดยจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าสำนัก จัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเข้าเล่นด้วย ส่วนจำเลยอื่นเป็นผู้เข้าเล่นพนัน ตลอดจนได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งจำเลยกระทำผิด คือ ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๐๗ เวลากลางวันที่ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา แม้ฟ้องโจทก์จะไม่ระบุถึงทรัพย์สินที่เอาออกพนันและไพ่ผ่องไทยที่ใช้เป็นเครื่องมือในการเล่น ว่าเจ้าพนักงานจับได้ของกลางบ้างก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะพอจะเข้าใจได้แล้วว่า เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเล่นการพนันไพ่ผ่องไทยเอาทรัพย์สิน เครื่องมือที่ใช้การเล่นก็คือไพ่ผ่องไทย ทรัพย์สินที่พนันก็อาจเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่นซึ่งเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบไปว่าจับของกลางในวงเล่นได้บ้างหรือไม่ เห็นว่าโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดครบถ้วนชัดเจนพอที่จะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงไม่ขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share