แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญากู้เงินระหว่างโจทก์จำเลย ข้อ 2.1 ก. กำหนดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 14.50 ต่อปี แต่สัญญาข้อ 2.4 มีข้อความระบุว่า “ในกรณีที่ผู้กู้ไม่ชำระต้นเงิน และ/หรือดอกเบี้ยตามจำนวน และ/หรือกำหนดเวลาที่ระบุตามข้อ 3ผู้กู้ยอมให้ผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ที่ยังคงค้างชำระทั้งหมดในอัตราสูงสุดตามที่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้บริษัทเงินทุนสามารถเรียกเก็บได้จากลูกค้าเงินกู้แทนอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ 2.1, 2,2 และ 2.3 ข้างต้น” โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเอาดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงกันไว้ได้ แต่ปรากฏว่าข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยดังกล่าวเป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดอันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับตาม ป.พ.พ.มาตรา 379 ถ้าเบี้ยปรับกำหนดไว้สูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383