คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่พิพาทเป็นสนามบินใช้ในราชการกองทัพอากาศมีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง จึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จะครอบครองเอาเป็นของตนโดยจะยกเอาอายุความการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่าโจทก์มีสวนที่ดินมือเปล่าอยู่ที่ตำบลปทุม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ครอบครองมาด้วยความสงบ เปิดเผย เจตนายึดถือเพื่อตนตลอดมาโดยได้แจ้งการครอบครองและเสียภาษีบำรุงท้องที่ด้วย จำเลยได้ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงให้จำเลยทับที่โจทก์ทั้งหมด โจทก์ไปร้องเรียน เจ้าพนักงานให้โจทก์มาฟ้องศาล ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และสั่งเพิกถอนโฉนดที่ทับที่ของโจทก์เสีย
จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองเกี่ยวข้อง ทางราชการได้ก่นสร้างทำเป็นสนามบินมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๒ แล้วขยายกว้างออกไประหว่าง พ.ศ. ๒๔๘๔ – ๒๔๘๗ ทางกรมที่ดินได้ทำการรังวัดและทำแผนที่ออกหนังสือสำคัญให้กองทัพอากาศโดยได้ประกาศตามระเบียบแล้วโจทก์มิได้คัดค้าน ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม กองทัพอากาศได้ครอบครองที่พิพาทมากว่า ๑๐ ปีแล้ว โจทก์ทั้งสองหมดสิทธิที่จะฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีทั้งสองนี้รวมกับคดีอื่นอีก ๑๔ สำนวน แล้วพิพากษาว่าฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวนนี้(รวมทั้งสำนวนอื่น ๆ ด้วย) ไม่เคลือบคลุม และฟังไม่ได้ว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาท ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งสองสำนวน(นอกจากสำนวนอื่น)อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์ทั้งสองได้เข้าครอบครองที่ดินซึ่งทางราชการได้จับจองไว้ก่อน และยังคงสงวนครอบครองไว้ทำสนามบินเพื่อใช้ประโยชน์แผ่นดินโดยเฉพาะ จึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์ทั้งสองจะได้ครอบครองมาก็ไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นอ้างต่อสู้แผ่นดินได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิครอบครอง พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ทั้งสองเข้าไปครอบครองที่พิพาทภายหลังจำเลยเข้าทำสนามบินแล้ว โจทก์จะครอบครองที่พิพาทนานเท่าใด ก็ไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทนั้น ที่พิพาทเป็นสนามบินใช้ในราชการกองทัพอากาศ มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๖ โจทก์ทั้งสองจะครอบครองเอาเป็นของตนโดยจะยกเอาอายุความการครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินมิได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share