แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเรื่องให้ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนกับรางวัลนำจับเท่านั้น เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗, ๒๗ ทวิ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๑๖,๑๗ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๔ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พุทธศักราช ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙ ขอให้ริบสินค้าของกลาง และจ่ายเงินสินบนนำจับให้แก่ผู้นำจับ จ่ายเงินรางวับแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาว่า การที่เจ้าหน้าที่จับกุมในขณะสินค้ายังคงอยู่ในระวางเรือ โดยนายเรือยังมีโอกาสที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อขนขึ้นเป็นสินค้าผ่านแดนก็ดี ของกลางยังไม่อาจถือได้ว่าผิดพระราชบัญญัติศุลกากร พิพากษายกฟ้องไม่ริบของกลาง คำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า เรือ ซีรีน่า บรรทุกสินค้าของกลางลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีและเรือซีรีน่า ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าท่าเรือตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรจึงต้องริบสินค้าของกลางโดยไม่ต้องคำนึงว่ามีบุคคลใดต้องรับโทษหรือไม่จำเลยเป็นช่างเครื่องประจำเรือ ซีรีน่า มีหน้าที่ต้องแล่นเรือตามคำสั่งของนายเรือไม่มีอำนาจกำหนดเส้นทางการเดินเรือเอง จำเลยจึงไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องอุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบสินค้าของกลางตามพระราชบัญญัติศุลกากรพุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๑๗ ที่แก้ไขใหม่ และให้จ่ายสินบนนำจับและรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับ จากเงินที่ได้จากการขายสินค้าของกลาง ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พุทธศักราช ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นนี้แต่เพียงว่าสินค้าของกลางนั้นเป็นสินค้าที่จะต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากรหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะเรื่องให้ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนกับรางวัลนำจับเท่านั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ การที่จำเลยฎีกาว่า เรือซีรีน่ายังอยู่ในน่านน้ำสากลก็ดี พยานโจทก์ไม่น่าเชื่อก็ดี และเรือซีรีน่าไม่มีเจตนาลักลอบบรรทุกสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรก็ดี ล้วนแต่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย