แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หาจำต้องเป็นกรณีที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว หรือเจ้าพนักงาน (จำเลย) ได้พบการกระทำผิดซึ่งเกิดขึ้นซึ่งหน้าไม่ น. นายตำรวจปลอมตัวเป็นคนขับรถบรรทุกข้าวโพด แม้รถนั้นจะบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ก็ตามแต่เมื่อจำเลยซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจรตรวจรถได้เรียกให้รถหยุดเพื่อตรวจ ย่อมถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติราชการไปตามอำนาจหน้าที่ของจำเลย เมื่อจำเลยเรียกและรับเงิน 20 บาทไว้จาก น. เพื่อจะไม่กระทำการตรวจตามหน้าที่ก็ต้องมีความผิดตามมาตรา 149
หมายเหตุ ที่ประชุมใหญ่ (ครั้งที่ 2/2518) ได้พิจารณาปัญหาเกี่ยวกับที่ศาลล่างพิพากษาให้ริบเงิน 20 บาทของกลางด้วย มีมติว่าพึงริบได้และมีมติด้วยว่าไม่ต้องกล่าวถึงปัญหานี้ไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนี้เป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ๒ มีหน้าที่ตรวจจับปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายอยู่ที่ด่านตรวจบางนา ขณะนั้นพันตำรวจตรีนิกร จุณณวัตต์ สารวัตรประจำกองกำกับการสืบสวนนครบาลใต้ ได้ปลอมตัวเป็นคนขับรถบรรทุกข้าวโพดเพื่อนำข้าวโพดไปส่งที่บริษัทสยามไซโล จำกัด ที่สำโรง และผ่านด่านที่จำเลยปฏิบัติหน้าที่จำเลยได้ฉายไฟฉายส่งสัญญาณให้รถหยุดเพื่อตรวจน้ำหนักรถบรรทุกและของผิดกฎหมาย แต่จำเลยไม่ตรวจตามหน้าที่กลับบังอาจเรียกและรับเงิน ๒๐ บาท จากพันตำรวจตรีนิกร จุณณวัตต์ สำหรับตนเองโดยมิชอบเพื่อจำเลยจะไม่กระทำการตรวจรถบรรทุกข้าวโพดคันนั้นและยอมให้ผ่านไป อันเป็นการปฏิบัติมิชอบด้วยหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.๒๕๐๒ มาตรา ๕ และให้ริบเงินของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ (ที่ถูกพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.๒๕๐๒ มาตรา ๕ ด้วย) ให้จำคุก ๕ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าแม้จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก็จริง แต่จำเลยจะใช้อำนาจหน้าที่นั้นได้ก็ต่อเมื่อได้เกิดการกระทำผิดขึ้นหรือจำเลยได้พบการกระทำผิดซึ่งเกิดขึ้นซึ่งหน้านั้น ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ หาจำต้องเป็นกรณีที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้วหรือจำเลยได้พบการกระทำผิดซึ่งหน้าดังจำเลยฎีกาไม่ ฉะนั้นแม้รถบรรทุกที่พันตำรวจตรีนิกร จุณณวัตต์ ขับมานั้นจะบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ก็ตามเมื่อจำเลยซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจรตรวจรถได้เรียกให้รถหยุดเพื่อ ตรวจย่อมถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติราชการไปตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยแล้ว เมื่อจำเลยเรียกและรับเงิน ๒๐ บาทไว้จากพันตำรวจตรีนิกร เพื่อจะไม่กระทำการตรวจรถตามหน้าที่ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามบทมาตราที่โจทก์ฟ้อง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน