แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เข้าไปในบ้านผู้อื่นโดยกิจธุระไม่เป็นผิดฐานบุกรุกเข้าไปในบ้างเขาโดยกิจธุระแล้วภายหลักไปกล่าวคำหยาบช้าแข่งด่าเจ้าของบ้านไล่ก็ไม่ยอมออกไปดังนี้ เป็นผิดฐานบุกรุกเคหะสถานตามมาตรา 329 ในกรณีเช่นนี้ เจ้าของบ้านใช้เท้าถีบ 1 ทีประกอบคำขับไล่และไม่บาดเจ็บแล้วได้ชื่อว่าเป็นการป้องกัน พอสมควรแก่เหตุ ฎีกาอุทธรณ์ ข้อกฎหมายรูปคดีมีข้อเท็จจริงเช่นนั้นเช่นนี้แล้วจำเลยจะมีผิดหรือไม่เป็น ปัญหาข้อกฎหมาย
ย่อยาว
ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าเดิมเจ้าทุกข์เข้าไปในบ้านจำเลยโดยกิจธุระส่วนตัว แล้วจำเลยถามเจ้าทุกข์ว่าลูกจ้างจำเลยออกจากงานโดยเจ้าทุกข์แนะนำหรือ เจ้าทุกข์ปฏิเสธแล้วย้อนถามหาตัวผู้บอก จำเลยไม่บอกเจ้าทุกข์จึงแข่งด่าคนบอกด้วยคำหยาบข้า จำเลยห้ามกลับแข่งด่าหนักขึ้น จำเลยขอร้องและไล่ให้ออกจากบ้าน ๔ -๕ ครั้งก็ไม่ออก บ.มาช่วยไล่หลายครั้งก็คงแข่งด่าเอ็ดอิงไม่หยุดปากจำเลยจึงใช้เท้าถีบหลังที่ ๑ พร้อมกับคำขับไล่ เจ้าทุกข์จึงออกจากบ้านไป
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ปรับจำเลย ๑๐ บาท ตามมาตรา ๓๓๘ ข้อ ๓
จำเลยฎีกาว่ารูปคดีมีข้อเท็จจริงเช่นนี้ตามกฎหมายจำเลยหาโทษมิได้
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้กิริยาที่เจ้าทุกข์เข้าไปบ้านจำเลยไม่ผิในตอนต้นก็ดี แต่ตอนที่เจ้าทุกข์แสดงกิริยาวาจาแข่งด่าใช้ถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ อยู่ในบ้านจำเลย ๆ ห้ามก็ไม่หยุด ไล่ให้ออกจากบ้านก็ไม่ออกดังนี้ ได้ชื่อว่าเจ้าทุกข์เป็นผู้กระทำผิดฐานบุกรุกเคหะสถานของจำเลยตามมาตรา ๓๒๙ การที่จำเลยใช้เท้าถีบประกอบคำขับไล่และเจ้าทุกข์มิได้มีบาดเจ็บอย่างใดนั้นเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามกฎหมายลักษณอาชญามาตรา ๕๐ จึงพิพากษากลับศาลล่างให้ยกฟ้อง