คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4220/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่โจทก์ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนน้ำหนักเฮโรอีนของกลางให้ลดลงจากเดิมเป็นการแก้ไขรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 164 และจำเลยเพียงแต่ให้การปฏิเสธลอยแม้โจทก์จะระบุน้ำหนักเฮโรอีนในฟ้องผิด แต่โจทก์ได้บรรยายรายละเอียด เกี่ยวกับของกลางว่าของกลางที่ยึดเป็นเฮโรอีน ทั้งการขอแก้ฟ้อง ได้กระทำก่อนสืบพยานโจทก์เสร็จและจำเลยยังไม่ได้สืบพยาน จำเลยย่อมมีโอกาสต่อสู้คดีได้เต็มที่ จำเลยไม่มีทางหลง ต่อสู้ในข้อที่ผิดนี้ได้ การให้โจทก์แก้ฟ้องจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ริบของกลาง เพิ่มโทษจำเลยและนับโทษจำคุกในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1589/2539 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษและนับโทษต่อตามฟ้อง
ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับน้ำหนักเฮโรอีนจาก 1.52 กรัม เป็น 0.05 กรัม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้น อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้อง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปให้สิ้นกระแสความ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องและสืบพยานโจทก์เพิ่มเติมไม่ชอบทำให้จำเลยเสียเปรียบทางคดีนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าเมื่อมีเหตุอันควร โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น ปรากฏตามคำร้องขอแก้ฟ้องโจทก์ลงวันที่24 มีนาคม 2540 อ้างเหตุว่าคำฟ้องของโจทก์มีข้อบกพร่องคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับน้ำหนักเฮโรอีนของกลาง ขอแก้ไขน้ำหนักเฮโรอีนของกลางจาก 1.52 กรัม เป็น 0.05 กรัม เห็นว่า เหตุที่โจทก์อ้างมานั้นถือได้ว่าเป็นเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนส่งรายงานการตรวจพิสูจน์ของกลางมาให้ผิดพลาดซึ่งอาจเกิดบกพร่องเช่นนั้นได้ และการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องเกี่ยวกับจำนวนน้ำหนักเฮโรอีนของกลางให้ลดลงจากเดิมเป็นการแก้ไขรายละเอียดเรื่องของกลางซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ฉะนั้นจึงไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 164 คงมีปัญหาว่าจำเลยหลงต่อสู้ในข้อที่ผิดนี้หรือไม่ เห็นว่า ในตอนที่จำเลยให้การจำเลยเพียงแต่ให้การปฏิเสธลอย แม้โจทก์จะระบุน้ำหนักเฮโรอีนในฟ้องผิด แต่โจทก์ได้บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับของกลาง คือบรรยายว่า ของกลางที่ยึดได้เป็นเฮโรอีน ทั้งการขอแก้ฟ้องได้กระทำก่อนสืบพยานโจทก์เสร็จและจำเลยยังมิได้สืบพยาน จำเลยย่อมมีโอกาสต่อสู้คดีได้เต็มที่ จำเลยไม่มีทางหลงต่อสู้ในข้อที่ผิดไปนี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์แก้ฟ้องและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยไปให้สิ้นกระแสความแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้นชอบแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share