แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิต คือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 12 ปีถึง20 ปี แต่การลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตนั้น มิใช่ว่าจะลงโทษจำคุกต่ำกว่า 12 ปีไม่ได้ การที่ศาลลงโทษจำคุก 10 ปี ก็เป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิต
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2516)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืน กระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้อาวุธดังกล่าวยิงพลตำรวจประโยชน์ขณะเข้าจับกุมจำเลยในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่นแต่กระสุนไม่ระเบิดและทันใดนั้นเอง จำเลยใช้อาวุธปืนนั้นตีพลตำรวจประโยชน์ เป็นการกระทำเพื่อต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ก่อนคดีนี้จำเลยต้องโทษจำคุก 3 เดือนปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกรอไว้กำหนด 2 ปี จำเลยได้กระทำผิดคดีนี้อีกภายในกำหนด 2 ปี จับจำเลยได้พร้อมของกลาง
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 295, 289, 80พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และเอาโทษรอมาบวกกับโทษคดีนี้ ริบของกลาง
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ริบปืนและกระสุน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138, 295, 289, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 81 ซึ่งเป็นบทหนัก และกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 90, 91 และประกอบด้วยมาตรา 52 ให้จำคุก 10 ปี บวกโทษรอการลงโทษอีก 3 เดือน รวมจำคุกจำเลย 10 ปี 3 เดือน
โจทก์ฎีกาว่า การกำหนดโทษจำคุกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 81 ประกอบมาตรา 52 จะวางโทษจำคุกต่ำกว่า 12 ปีไม่ได้
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง และวินิจฉัยว่า การจะคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตนั้น กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52(2) มาใช้เป็นหลักในการกำหนดโทษ โทษกึ่งหนึ่งที่จะลงแก่จำเลย ก็คือโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษจำคุกตั้งแต่ 12 ปีถึง 20 ปี ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดโทษจำคุกจำเลย 10 ปี เป็นการลงโทษที่ไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289ประกอบด้วยมาตรา 81 หาใช่ว่าจะต้องกำหนดโทษจำคุกจำเลยอย่างต่ำ 12 ปีไม่
พิพากษายืน