แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญามีว่า โจทก์ยอมออกจากที่เช่าภายใน 31 สิงหาคมจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 50,000 บาท โจทก์ออกจากที่เช่าช้ากว่า 31 สิงหาคม ดังนี้ ไม่เป็นเหตุให้จำเลยงดไม่จ่ายเงินตามสัญญาการออกจากที่เช่าผิดกำหนดอาจเป็นผิดสัญญาที่จะต้องยกขึ้นเป็นข้ออ้างอีกส่วนหนึ่งถ้าไม่มีประเด็นไปถึงข้อนี้ จำเลยต้องจ่ายเงินให้โจทก์ตามสัญญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกันให้โจทก์ออกจากที่เช่าให้จำเลยจ่ายเงินห้าหมื่นบาทแก่โจทก์ บัดนี้โจทก์ออกจากที่เช่าแล้วแต่จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ยังขาดสองหมื่นบาท โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้และดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์รับเงินสามหมื่นบาทไปแล้วเพื่อเลิกการเช่า จำเลยให้การต่อไปใช้ถ้อยคำว่า “โจทก์ได้เสนอระยะเวลาต่อจำเลยว่าถ้าโจทก์ออกจากสถานที่เช่าภายในกำหนดวันที่ 31 สิงหาคม 2491 ขอให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์อีกสองหมื่นบาท แต่แล้วโจทก์ไม่สามารถรื้อถอนและขนย้ายอาคารรวมทั้งบริวารของโจทก์ออกภายในกำหนดได้ คำให้การอย่างอื่นยังมีอีกจะไม่กล่าว
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า โจทก์ออกจากที่เช่าไม่ใช่ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2491 โจทก์เป็นผู้ผิดสัญญา จึงไม่มีสิทธิเรียกเงินสองหมื่นบาท พิพากษายกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยอมยืดระยะเวลาให้โจทก์พิพากษากลับให้จำเลยจ่ายเงินสองหมื่นบาทกับดอกเบี้ยแก่โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว โจทก์ฟ้องระบุถึงสัญญา จำเลยให้การต่อสู้คดีส่วนที่เกี่ยวกับสัญญาจะรับหรือปฏิเสธความไม่ชัดข้อเท็จจริงในส่วนนี้ต้องฟังว่าสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้น คือโจทก์ยอมออกจากที่เช่าภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2491 ฝ่ายจำเลยยอมจ่ายเงินแก่โจทก์ห้าหมื่นบาท จำเลยจ่ายแล้วสามหมื่นบาทยังค้างสองหมื่นบาท
จำเลยเถียงว่า โจทก์ออกจากที่เช่าไม่ใช่ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2491 จำเลยจึงไม่จ่ายเงินสองหมื่นบาท
ตามข้อเถียงของจำเลยนั้น ข้อที่ว่าโจทก์ออกจากที่เช่าไม่ใช่ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2491 เป็นความจริง แต่ที่จำเลยถือเอาข้อนี้เป็นเหตุงดไม่จ่ายเงินนั้นหาชอบไม่ ข้อสัญญาไม่ได้ว่าให้งดไม่จ่ายเงิน ตามข้อสัญญาเมื่อโจทก์ออกจากที่เช่าไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องจ่ายเงิน ส่วนการออกจากที่เช่าผิดกำหนดเวลาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นบางกรณีจำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเป็นต้นทั้งนี้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ กัน แต่ประเด็นที่จะคืบหน้าไปถึงข้อเท็จจริงเช่นนั้นหามีไม่ คดีนี้มีประเด็นดังที่วินิจฉัยมาแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
ศาลนี้พิพากษายืน ให้จำเลยเสียค่าทนายแก่โจทก์ 500 บาท