แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์ซึ่งเป็นมฤดกตกทอดแก่สามีก่อนสมรสกับภรรยาและทายาทตกลงแบ่งปันกันในระหว่างสมรส ทรัพย์นั้นเป็นสินเดิมของสามี หาใช่เป็นสินสมรสไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากสามีภริยากับจำเลย กับขอแบ่งสินสมรสกัน กับขอค่าอุปการะเลี้ยงดู จำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์อันดับ ๑ ถึง ๑๒ เป็นสินเดิมของจำเลย โดยได้รับมฤดกจากบิดา ส่วนทรัพย์อันดับ ๑๓,๑๔ จำหน่ายไปหมดแล้ว วันชี้สองสถานคู่ความตกลงยินยอมหย่าขาดจากกัน และค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ไม่เรียกร้อง ศาลชั้นต้นฟังว่า ทรัพย์อันดับ ๑ ถึง ๑๒ เป็นสินเดิมของจำเลย ทรัพย์อันดับ ๑๓,๑๔ ไม่มีอยู่ที่จำเลย พิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากสามีภริยากัน ส่วนข้อขอให้แบ่งสินสมรสกัน ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อวินิจฉัยของศาลล่างที่ฟังมาว่า ทรัพย์อันดับ ๑ ถึง ๑๒ เป็นสินเดิมของจำเลยนั้นชอบแล้ว เพราะทรัพย์ดังกล่าวเป็นมฤดกของบิดาจำเลย ได้ตกทอดแก่จำเลยและทายาทอื่นก่อนจำเลยสมรสกันกับโจทก์แล้ว จำเลยและทายาทยังปกครองทรัพย์มฤดกร่วมกันมาอีก จึงถือว่าทรัพย์นี้จำเลยมีอยู่ก่อนสมรส เป็นสินเดิมตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๔๖๓ (๑) การที่ทายาทมาตกลงแบ่งปันทรัพย์ซึ่งต่างเป็นเจ้าของร่วมกัน ในระหว่างที่โจทก์จำเลยสมรสกัน หาทำให้ทรัพย์นั้นเป็นสินสมรสได้
พิพากษายืน