คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4183/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเฮโรอีนบรรจุในหลอดกาแฟจำนวน28หลอดอยู่ในกล่องพลาสติกที่จำเลยถืออยู่และยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันที่ตัดไว้โดยเปิดด้านหนึ่งอยู่อีกถึง33หลอดประกอบกับในชั้นจับกุมจำเลยรับสารภาพว่าซื้อเฮโรอีนมาแบ่งบรรจุในหลอดกาแฟและแสดงท่าบรรจุเฮโรอีนในหลอดกาแฟเปล่าให้เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับดูด้วยทั้งในชั้นสอบสวนจำเลยก็รับว่าหลอดกาแฟเปล่าเตรียมไว้เพื่อบรรจุเฮโรอีนพฤติการณ์ของจำเลยที่แบ่งเฮโรอีนออกเป็นส่วนย่อยและบรรจุลงในหลอดกาแฟดังกล่าวและยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันจำนวนมากแม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขั้นตอนที่จำเลยทำการแบ่งบรรจุใส่ในหลอดกาแฟแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยกระทำเพื่อความสะดวกในการจัดจำหน่ายนั่นเองจึงฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานผลิตเฮโรอีน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 26, 65, 66, 67, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 ริบของกลางทั้งหมด เว้นธนบัตร200 บาท ของกลางที่ใช้ในการล่อซื้อให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง,65 วรรคหนึ่ง วรรคสอง, 76 วรรคหนึ่ง การกระทำความผิดของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนักตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 65วรรคสอง ให้ประหารชีวิต ฐานจำหน่ายเฮโรอีนให้จำคุกกระทงละ 5 ปีรวม 2 กระทง จำคุก 10 ปี ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 2 เดือน เมื่อศาลลงโทษจำเลยหนักที่สุดในความผิดกระทงแรกโดยให้ประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษกระทงหลังมาบวกกับโทษกระทงแรกได้อีก จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและเป็นการให้ความรู้แก่ศาลมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกตลอดชีวิต ริบของกลางเว้นแต่เงิน 200 บาทที่เจ้าพนักงานตำรวจใช้ในการล่อซื้อให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายให้ปรับบทความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 65วรรคสอง และมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ส่วนโทษประหารชีวิตในความผิดฐานผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทหนักเมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(2) ให้เปลี่ยนเป็นจำคุก 25 ปี เมื่อนำเอาโทษจำคุกที่มีกำหนดเวลาในกระทงอื่นอีก3 กระทง ซึ่งศาลชั้นต้นวางโทษจำคุก รวม 10 ปี 2 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี 1 เดือนมารวมกับโทษในกระทำแรกที่ให้จำคุก 25 ปี จึงรวมเป็นจำคุกจำเลย30 ปี 1 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหามาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานผลิตเฮโรอีนของกลางตามฟ้องหรือไม่ ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันขั้นตอนที่จำเลยทำการแบ่งบรรจุเฮโรอีนใส่ในหลอดกาแฟ คงปรากฎแต่เพียงมีเฮโรอีนใส่หลอดกาแฟไว้เรียบร้อยแล้วจำเลยจึงน่าจะมีความผิดเพียงมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเพราะเจตนาของเจ้าพนักงานตำรวจที่ล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยทั้ง 2 ครั้ง เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานอันมิชอบนั้น เห็นว่าพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ให้คำนิยามคำว่า”ผลิต” ไว้ว่า ให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วยข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า ขณะจับจำเลยได้นั้นเจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเฮโรอีนบรรจุในหลอดกาแฟจำนวนถึง 28 หลอดอยู่ในกล่องพลาสติกที่จำเลยถืออยู่และยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันที่ตัดไว้โดยปิดด้านหนึ่งอยู่อีกถึง 33 หลอด ประกอบกับในชั้นจับกุมจำเลยรับสารภาพว่าซื้อเฮโรอีนมาแบ่งบรรจุในหลอดกาแฟตามบันทึกการจับคุมเอกสารหมาย จ.3 และแสดงท่าบรรจุเฮโรอีนในหลอดกาแฟเปล่าให้เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับดูด้วย นอกจากนี้ในชั้นสอบสวนจำเลยก็รับว่าหลอดกาแฟเปล่าเตรียมไว้เพื่อบรรจุเฮโรอีนตามบันทึกคำให้การเอกสารหมาย จ.6 พฤติการณ์ของจำเลยที่แบ่งเฮโรอีนออกเป็นส่วนย่อยและบรรจุลงในหลอดกาแฟดังกล่าว ทั้งยังมีหลอดกาแฟเปล่าขนาดเดียวกันจำนวนมาก แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขั้นตอนที่จำเลยทำการแบ่งบรรจุใส่ในหลอดกาแฟ แต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยกระทำเพื่อความสะดวกในการจัดจำหน่ายนั่นเอง พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานผลิตเฮโรอีนของกลางตามฟ้อง ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้นเห็นว่า ความผิดฐานผลิตเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 65 วรรคสอง วางโทษประหารชีวิตสถานเดียวจึงไม่อาจลดโทษจำเลยให้ต่ำกว่านี้ได้อีก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share