แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ถอนฟ้องอุทธรณ์เมื่อจำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้ว จะต้องฟังจำเลยก่อน มิฉะนั้นห้ามมิให้ศาลอนุญาต
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ของโจทก์
จำเลยให้การสู้คดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้วเมื่อสำนวนขึ้นไปศาลอุทธรณ์ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์สั่งเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๒ โดยยังไม่ปรากฏคำคัดค้านของจำเลยหรือไม่ อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องอุทธรณ์ได้ ให้จำหน่ายคดี
จำเลยฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์
ในข้อที่ศาลอุทธรณ์สั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องอุทธรณ์ไปนั้นชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๕ และ ๒๔๖หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ความในมาตรา ๑๗๕ บัญญัติกรณีที่โจทก์ขอถอนคำฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การไว้ว่า โจทก์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องได้ ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรือจะอนุญาตภายในเงื่อนไขตามที่เห็นสมควรก็ได้แต่ห้ามไม่ให้ศาลอนุญาตโดยมิได้ฟังจำเลยก่อน ปรากฏว่าในขณะที่ศาลอุทธรณ์ทำคำสั่งลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๒ ศาลชั้นต้นยังมิได้ส่งคำแถลงคัดค้านของจำเลยซึ่งยื่นไว้ตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๑๒ขึ้นไปศาลอุทธรณ์ด้วย จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไปโดยมิได้ฟังเหตุผลว่า จำเลยจะยินยอมให้โจทก์ถอนฟ้องหรือจะคัดค้านประการใดหรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์ได้สั่งไปโดยมิได้ฟังคำคัดค้านของจำเลยก่อน เช่นนี้ ย่อมต้องห้ามตามกฎหมายไม่ให้ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ คำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วทำคำสั่งใหม่ตามรูปคดี