แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ 8กันยายน 2527 ต่อมาอ่านให้โจทก์และทนายจำเลยฟังอีกครั้งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2527 ดังนี้ ต้องถือว่าศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2527 ไม่ใช่วันที่30 กันยายน 2527 จำเลยจึงต้องยื่นฎีกาภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2527.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 288, 289, 340, 340 ตรี พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490, มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 289, 340 วรรคท้าย ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14 ลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย ซึ่งเป็นบทหนัก ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่ 2ผิดตามมาตรา 83, 91, 288, 289, 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 14, 15 ลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย เพราะไม่อาจเพิ่มโทษ ตามมาตรา 340 เป็นบทหนัก ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 2ร้บสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกตลอดชีวิต และผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ข้อ 3, 6, 7 ข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี6 เดือน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 1 ปีแต่จำเลยที่ 2 ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วไม่อาจบวกโทษตามความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ อีกได้ คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ตลอดชีวิตริบอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังขาดแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟังเมื่อวันที่ 8 กันยายน2527 และศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์และทนายจำเลยทั้งสองฟังเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2527 จึงต้องถือว่าศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟังตั้งแต่วันที่8 กันยายน 2527 ไม่ใช่วันที่อ่านให้ทนายจำเลยทั้งสองฟังเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2527 จำเลยทั้งสองจึงต้องยื่นฎีกาภายในวันที่8 ตุลาคม 2527 การที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นฎีกาวันที่ 30 ตุลาคม2527 เป็นเวลาเกินหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟัง จึงล่วงระยะเวลาที่จำเลยทั้งสองมีอำนาจฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งสอง”.