แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดโต้ปลายมน มีคมข้างเดียวใช้ฟันได้อย่างเดียว ขนาดตัวมีดยาว 10 นิ้วฟุต ด้ามมีดยาว 4 นิ้วฟุตวิ่งเข้าไปทางด้านหลังฟันถูกศีรษะผู้เสียหาย 1 ทีเกิดบาดแผลยาว 2 เซนติเมตรลึกจดกระโหลกศีรษะ กระโหลกศีรษะไม่ร้าวหรือแตก แสดงว่าฟันไม่เต็มแรงและถูกหน้ามีดเพียงเล็กน้อย ผู้เสียหายรักษาบาดแผล 25 วันหาย แม้จะได้ความว่าฟันแล้วผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ตามไป แต่จำเลยไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหายอีก ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2512 เวลากลางวัน จำเลยใช้มีดพร้าฟันศีรษะพลตำรวจจำรัส ธรรมโหร 1 ที ได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่บรรลุผล ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาก่อนสืบพยานโจทก์กลับรับสารภาพและว่าเป็นโรคปัญญาอ่อน เคยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล กระทำผิดด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา และผู้ปกครองจำเลยได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญแก่ผู้เสียหายไปแล้ว ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงเหลือจำคุก 5 ปี ริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาฆ่า เป็นเพียงทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสและกระทำผิดในขณะยังเป็นโรคจิตฟั่นเฟือน แต่ยังสามารถรู้ผิดชอบบ้าง หรือสามารถบังคับตนเองได้ พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ประกอบด้วยมาตรา 65 วรรค 2 จำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า มีเจตนาฆ่าและกระทำความผิดในขณะที่มีความรู้สึกผิดชอบเช่นคนธรรมดา ไม่เข้าเหตุตามมาตรา 65 วรรค 2
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยใช้มีดโต้ของกลางฟันศีรษะผู้เสียหายจริง คดีมีปัญหาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายดังโจทก์ฎีกา หรือเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ศาลฎีกาได้พิเคราะห์มีดโต้ของกลางที่จำเลยใช้ทำร้ายผู้เสียหายมีขนาดตามภายในสำนวน ตัวมีดยาว 10 นิ้วฟุตด้ามมีดยาว 4 นิ้วฟุต เป็นมีดคมข้างเดียว ปลายมนใช้ฟันได้แต่อย่างเดียวมีดของกลางมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก ได้ความว่าจำเลยวิ่งเข้าไปในร้านตัดผมตรงเข้าไปข้างหลังผู้เสียหายแล้วฟันศีรษะด้านหลังผู้เสียหายเพียง 1 ที บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับยาวเพียง 2 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ลึกจดกระโหลกศีรษะ กระโหลกศีรษะไม่ร้าวหรือแตก แสดงว่าจำเลยฟังไม่เต็มแรงและถูกหน้ามีดเพียงเล็กน้อย ผู้เสียหายรักษาบาดแผลประมาณ 25 วันบาดแผลก็หาย แม้จะได้ความว่าเมื่อฟันแล้วจำเลยวิ่งตามผู้เสียหายไป จำเลยก็ไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหายอีก รูปคดียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเท่านั้น ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ส่วนฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า จำเลยกระทำผิดลงในขณะที่มีความรู้สึกผิดชอบเช่นคนธรรมดาไม่เข้าเหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรค 2 หรือไม่เห็นว่า พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่โจทก์นำสืบมาฟังได้ว่าขณะจำเลยกระทำผิด จำเลยสามารถรู้สึกผิดชอบได้ดีเช่นบุคคลธรรมดาหาใช่จำเลยเพียงแต่สามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำเลยอายุ 19 ปี เมื่อลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 76 แล้ว ให้จำคุกจำเลยไว้ 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 ให้จำคุกจำเลยไว้ 1 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์