คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4143/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาตำบลซึ่งได้รับเลือกตั้งต้องเป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลนั้นเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537มาตรา 9(2) นั้น หมายความว่า ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวต้องมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลที่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นด้วย
การที่โจทก์มีบ้านอันเป็นภูมิลำเนาตามกฎหมายอยู่ในหมู่บ้านในตำบลนอกเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล แต่ได้ย้ายชื่อของตนจากบ้านนั้นเข้าไปอยู่ในฐานะผู้อาศัยในทะเบียนบ้านของผู้อื่นซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยโจทก์ไม่จงใจย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์ไม่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในเขตเลือกตั้ง โจทก์จึงขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2540 โจทก์ได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2540 จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว โดยอ้างว่า โจทก์เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลตามมาตรา 9(2) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 เพราะโจทก์มิได้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลนั้นเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง แต่เนื่องจากโจทก์ได้ย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 6/5 หมู่ที่ 2 ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2539 ซึ่งถือว่าบ้านดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาที่แน่นอนของโจทก์ การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้โจทก์กลับเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวตามเดิม รวมทั้งให้เพิกถอนคำสั่งและการกระทำของจำเลยอันต่อเนื่องจากคำสั่งที่ให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวด้วย

จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้เป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำในหมู่บ้านในตำบลในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง จึงไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 9(2) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 คำสั่งของจำเลยที่ให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์จงใจย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านเลขที่ 6/5 โจทก์จึงขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียร พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ

ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่ากระทรวงมหาดไทยได้ประกาศตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียรเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2539 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2540 ซึ่งอำเภอน้ำยืนออกคำสั่งที่ 154/2540 แต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยกำหนดการรับสมัครระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2540 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2540 โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 4/4 หมู่ที่ 2 ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แล้วโจทก์ได้ย้ายชื่อของตนจากบ้านเลขที่ 4/4 เข้าไปอยู่ในฐานะผู้อาศัยในทะเบียนบ้านเลขที่ 6/5 หมู่ที่ 2 ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายตอม ฉัตรธง อยู่ในเขตเลือกตั้งสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียรเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2540 เป็นระยะเวลาก่อนวันรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียรไม่น้อยกว่าหกเดือน โจทก์ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียรเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2540 หลังจากสิ้นกำหนดระยะเวลารับสมัครเลือกตั้งมีผู้สมัครเพียง 2 คน คือ โจทก์และนายตอม ฉัตรธง ซึ่งไม่เกินจำนวนสมาชิกที่จะมีการเลือกตั้งได้ โจทก์จึงได้รับเลือกตั้งโดยไม่ต้องลงคะแนนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ต่อมามีผู้ร้องเรียกว่าโจทก์ไม่ได้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำในเขตเลือกตั้งซึ่งขาดคุณสมบัติ จำเลยจึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าโจทก์ขาดคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือไม่ ผลการสอบสวนปรากฏว่า โจทก์เพียงแต่ย้ายชื่อของตนจากบ้านเลขที่ 4/4 เข้าไปอยู่ในฐานะผู้อาศัยในทะเบียนบ้านเลขที่ 6/5ของนายตอม ฉัตรธง เท่านั้น โดยไม่ได้เข้าไปอาศัยกินอยู่หลับนอนแต่อย่างใดถือว่าโจทก์ไม่ได้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำในเขตเลือกตั้ง จำเลยจึงมีคำสั่งให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียรตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2540 เป็นต้นไป

คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงประการเดียวว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์อ้างว่า แม้จะถือไม่ได้ว่าโจทก์จงใจ ย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านเลขที่ 6/5 ก็ตาม แต่บ้านเลขที่ 6/5 และบ้านเลขที่ 4/4 ต่างก็อยู่ในเขตหมู่บ้านเดียวกัน คือ หมู่ที่ 2 ตำบลสีวิเชียร ถือว่าโจทก์มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำในหมู่บ้านในตำบลนั้นตามที่กฎหมายกำหนดแล้วนั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 9 บัญญัติว่า ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาตำบลซึ่งได้รับเลือกตั้งต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตาม (1) และ (2) และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม (3) ถึง (11) ดังต่อไปนี้ (2) มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลนั้นเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหกเดือนจนถึงวันสมัครเลือกตั้ง หมายความว่า ผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลต้องมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านในตำบลที่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่จงใจย้ายภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ไปที่บ้านเลขที่ 6/5 อันถือได้ว่าโจทก์ไม่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำและมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในเขตเลือกตั้งแม้บ้านเลขที่ 4/4 อันเป็นบ้านที่โจทก์มีภูมิลำเนาตามกฎหมายจะอยู่ในหมู่ที่ 2 ตำบลสีวิเชียรก็ตาม แต่ก็เป็นบ้านที่มีภูมิลำเนาที่อยู่ในหมู่บ้านในตำบลนอกเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียร ดังนั้น โจทก์จึงขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียร

พิพากษายืน

Share