แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ก่อนคดีนี้ จำเลยถูกฟ้องขอให้ล้มละลายในคดีหมายเลขแดงที่ล.130/2530 ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2530 จำเลยอุทธรณ์ ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยถูกฟ้องขอให้ล้มละลายอีกคดีหนึ่งตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2531 ต่อมาคดีหมายเลขแดงที่ล.130/2530 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้วจึงไม่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีดังกล่าว ส่วนคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 จำเลยอุทธรณ์และฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นสำหรับคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเมื่อวันที8 มีนาคม 2534 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่30 เมษายน 2534 ขณะที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายในคดีนี้จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วในคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531และคดีได้ถึงที่สุดแล้ว คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังกล่าวจึงยังมีผลอยู่และใช้ยันแก่โจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145(1) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 153 จึงต้องจำหน่ายคดีนี้เสียตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 15
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2534ต่อมาเมื่อแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังกล่าวให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือแจ้งต่อศาลชั้นต้นว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดไว้แล้วเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2531 ในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ล.312/2531 ระหว่าง บริษัทแพซิฟิคโอเวอร์ซีส์เทรดดิ้ง จำกัดโจทก์ นายสืบศักดิ์ คลังมนตรี กับพวก จำเลย คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีนี้จึงซ้ำกับคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีดังกล่าวขอให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า ก่อนคดีนี้ จำเลยถูกฟ้องขอให้ล้มละลายในคดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2530ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 17เมษายน 2530 จำเลยอุทธรณ์ ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยถูกฟ้องขอให้ล้มละลายอีกคดีหนึ่งตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 27มิถุนายน 2531 ต่อมาคดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2530 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว ส่วนคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531จำเลยอุทธรณ์และฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นสำหรับคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2534ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 30 เมษายน2534 มีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่าตามคำแถลงของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ คดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531ได้ยื่นฟ้องและศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในขณะที่จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วในคดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2530ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ดังนั้น ศาลต้องสั่งให้จำหน่ายคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 ออกจากสารบบความตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เมื่อศาลไม่สั่งให้จำหน่ายคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายแม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกฟ้องโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ล.130/2530 และคดีถึงที่สุดก็ไม่ทำให้คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแต่ต้นกลับชอบด้วยกฎหมายขึ้นมาได้ และตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ก็มิได้บัญญัติให้ต้องรอจนคดีถึงที่สุดจึงจะจำหน่ายคดีล้มละลายซึ่งเจ้าหนี้อื่นฟ้องลูกหนี้คนเดียวกันนั้นฉะนั้นฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงชอบด้วยกฎหมาย เพราะในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ คดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2531 ถึงที่สุดไปแล้วประกอบกับกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายเสมือนหนึ่งไม่มีคดีดังกล่าวอยู่ในศาลนั้นเห็นว่า ขณะที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายในคดีนี้จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วในคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 และคดีได้ถึงที่สุดแล้ว คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังกล่าวจึงยังมีผลอยู่และใช้ยันแก่โจทก์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145(1) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 153 จึงต้องจำหน่ายคดีนี้เสียตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 15 ที่โจทก์ฎีกาว่าคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีหมายเลขแดงที่ ล.312/2531 ไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องสั่งให้จำหน่ายคดี เพราะขณะนั้นจำเลยถูกศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2530 ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ ล.130/2530 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องคดีถึงที่สุด จึงไม่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีดังกล่าวที่ศาลล่างทั้งสองให้จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความจึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน