คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

น้ำใช้แล้วหรือน้ำโสโครกไม่อยู่ในความหมายของน้ำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1339, 1340 ซึ่งหมายความเฉพาะน้ำตามธรรมชาติ เช่นน้ำฝนเป็นต้น

ย่อยาว

โจทก์ทั้งเจ็ดฟ้องว่า โจทก์ทั้งเจ็ดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และครอบครองบ้านในเขตเทศบาลตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำเลยที่ ๒ เป็นเจ้าของที่ดินด้านทิศตะวันออกของบ้านโจทก์ จำเลยที่ ๑ เป็นผู้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าวจากจำเลยที่ ๒ ที่ดินอันเป็นที่ตั้งบ้านโจทก์มีระดับสูงกว่าที่ดินของจำเลยที่ ๒ น้ำจากบ้านโจทก์ระบายไหลผ่านที่ดินจำเลยที่ ๒ ไปสู่ทางน้ำทางทิศตะวันออกของที่ดินจำเลยที่ ๒ และเป็นเช่นนี้มาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว ครั้นเดือนมีนาคม ๒๕๒๐ จำเลยที่ ๑ถมที่ดินแปลงที่เช่าจากจำเลยที่ ๒ สูงกว่าระดับบ้านโจทก์ ปิดทางระบายน้ำจากบ้านโจทก์ทางด้านทิศตะวันออก โจทก์จึงร่วมกันทำทางระบายน้ำเลียบด้านหลังบ้านซึ่งติดกับที่ดินจำเลยที่ ๒ ไปทางทิศใต้ ผ่านสุดเขตที่ดินจำเลยที่ ๒ ลงสู่ทางน้ำของเทศบาล ครั้นวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๒๐ จำเลยที่ ๑ บังอาจปิดกั้นทางระบายน้ำดังกล่าวทำให้โจทก์เดือดร้อน ขอให้พิพากษาบังคับห้ามจำเลยปิดกั้นทางระบายน้ำและจัดการทำให้สิ่งกีดขวางทางระบายน้ำหมดสิ้นไป หรือให้โจทก์จัดทำเองโดยจำเลยที่ ๑ เสียค่าใช้จ่าย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า เดิมที่ดินของจำเลยที่ ๒ กับที่ดินโจทก์มีระดับเสมอกัน ต่อมาโจทก์ถมดินในที่ดินของโจทก์ จึงทำให้ที่ดินของโจทก์มีระดับสูงกว่าที่ดินของจำเลยที่ ๒ กรณีไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๓๙ โจทก์สร้างอาคารฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง โดยไม่สร้างทางระบายน้ำจากอาคารโจทก์ลงไปทางระบายน้ำของเทศบาล ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เดิมที่ดินจำเลยที่ ๒ กับที่ดินโจทก์มีพื้นที่ระดับเดียวกัน แต่โจทก์มาถมดินภายหลังจึงทำให้ที่ดินของโจทก์สูงกว่าที่ดินของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ไม่จำต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการระบายน้ำจากที่ดินโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ที่ดินโจทก์สูงขึ้นเพราะการถมไม่ใช่สูงโดยธรรมชาติ โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้จำเลยเปิดทางระบายน้ำ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งเจ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า น้ำที่โจท์ระบายเป็นน้ำที่ใช้แล้วหรือน้ำโสโครกไม่ใช่เป็นการระบายน้ำที่โจทก์ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น และไม่ใช่น้ำที่ไหลตามธรรมดาจากที่สูง จึงนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๙ วรรคแรกและมาตรา ๑๓๔๐ มาปรับไม่ได้ พิพากษายืนในผล
โจทก์ทั้งเจ็ดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีตามฟ้องเป็นเรื่องพิพาทกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๙ และมาตรา ๑๓๔๐แม้ที่ดินของโจทก์ทั้งเจ็ดจะสูงกว่าที่ดินของจำเลยที่ ๒ โดยธรรมชาติแต่โจทก์ก็ไม่อาจขอให้จำเลยที่ ๒ เปิดทางระบายน้ำได้ เพราะกรณีที่เจ้าของที่ดินจำต้องรับน้ำซึ่งไหลเพราะระบายจากที่ดินสูงมาในที่ดินของตนตามมาตรา ๑๓๔๐ นั้น หมายถึงน้ำตามธรรมชาติเช่นน้ำฝนเป็นต้น หาใช่น้ำโสโครกดังเช่นกรณีของโจทก์ไม่
พิพากษายืน

Share