แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เรือนหอและเครื่องเรือนซึ่ง+มีอยู่ก่อนพิธีสมรสเป็นสินเดิมของฝ่ายชาย ไม่ใช่สินสอด เมื่อหย่ากันจึงเรียกคืนได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อสมรสกับจำเลยที่ ๒ ได้เสียแหวนหมั้น ๑ วง กับเรือนหอและเครื่องเรือนรวมราคา ๔,๕๖๘ บาท บัดนี้ได้หย่าขาดกันแล้วจึงเรียกคืน จำเลยให้การว่าในการตกลงสมรสโจทก์ได้ให้เงิน ๔,๐๐๐ บาท ให้มารดาจำเลยจัดปลูกเรือนและหาเครื่องเรือน สิ่งของที่เกิดขึ้นในวงเงินนี้จึงเป็นสินสอดได้แก่บิดามารดาจำเลยศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเรือนที่เรียกร้องนี้เป็นเรือนหอ จึงไม่ใช่สินสอด จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ออกเงินและจัดการปลูกสร้างเรือนพิพาทนี้ ได้ทำพิธีสมรสและอยู่กินกันมาในเรือนหลังนี้ จึงต้องฟังว่าเป็นเรือนหอ ส่วนเครื่องเรือนก็เป็นของโจทก์ซึ่งได้จัดหามาไว้ก่อนพิธีสมรส ฉะนั้นเรือนและทรัพย์เหล่านี้จึงไม่ใช่สินสอดซึ่งจะได้แก่บิดามารดาจำเลยตามกฎหมาย จึงพิพากษายืน