แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องกับจำเลยจดทะเบียนหย่ากันหลังจากศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนแก่โจทก์ โดยตกลงกันให้ทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งบ้านพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสตกได้แก่ผู้ร้อง เป็นการกระทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเสียเปรียบ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องกับจำเลยได้ร่วมกันทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการที่จำเลยจะต้องถูกยึดทรัพย์มาเพื่อการบังคับคดีตามกฎหมาย เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต จึงไม่มีผลให้บ้านพิพาทตกเป็นสิทธิของผู้ร้องแต่ผู้เดียว
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ฟังได้ว่าบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินซึ่งผู้ร้องและจำเลยได้ปลูกสร้างขึ้นในระหว่าง ที่ผู้ร้องกับจำเลยเป็นสามีภรรยากัน เป็นสินสมรสของผู้ร้องและจำเลย หาใช่เป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องไม่ การที่ผู้ร้องกับจำเลยจดทะเบียนหย่ากันเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2521 หลังจากศาลพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนแก่โจทก์เพียงประมาณ 2 เดือน โดยตกลงกันให้ทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งบ้านพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสตกได้แก่ผู้ร้องฝ่ายเดียวเป็นการกระทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเสียเปรียบ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าผู้ร้องกับจำเลยได้ร่วมกันทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการที่จำเลยจะต้องถูกยึดทรัพย์มาเพื่อการบังคับคดีตามกฎหมาย เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตจึงไม่มีผลให้บ้านพิพาทตกเป็นสิทธิของผู้ร้องแต่ผู้เดียว ดังที่ผู้ร้องฎีกามา”
พิพากษายืน