แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้วันกระทำผิดในฟ้องภายหลังที่ได้สืบพะยานโจทก์เสร็จแล้วนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างคืนวันที่ ๔-๕ กุมภาพันธ์ จำเลยได้บังอาจลักทรัพย์ของ ย.ไป ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๙๔
ปรากฎว่าเมื่อโจทก์สืบพะยานหมดแล้วโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอแก้วันฟ้องเป็นระหว่างคืนวันที่ ๓-๔ กุมภาพันธ์
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วสั่งสืบพะยานจำเลย แลพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๔
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตาม
จำเลยฎีกาว่าเมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฎทางพิจารณาไม่ตรงกับที่กล่าวในฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง แลว่าคำสั่งที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา มาตรา ๑๖๔
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลก็ได้อนุญาตให้แก้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๖๓-๑๖๔ จะถือว่าข้อเท็จจริงในฟ้องต่างกับที่ได้ความตามทางพิจารณาไม่ได้ และเห็นว่าศาลล่างทั้งสองได้วินิจฉัยยืนตามกันมาว่าให้โจทก์แก้ฟ้องได้ ก็เพราะจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฎีกาจำเลยจึงเป็นการเถียงข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์