แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อเงินเพิ่มตามวุฒิและค่าครองชีพเป็นเงินของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมิใช่นายจ้างของโจทก์จ่ายให้โจทก์เงินดังกล่าวจึงมิใช่ค่าจ้าง เพราะมิใช่เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง จึงไม่ต้องนำมาเป็นเกณฑ์คำนวณค่าชดเชยและเงินที่ต้องจ่ายแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำโดยเป็นครูของโรงเรียนจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า โจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ ๒,๕๒๐ บาท ขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ค้าง ค่าเสียหายที่มิได้บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าและค่าชดเชยให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์จงใจทำให้โรงเรียนเสียหายโดยฝ่าฝืนข้อบังคับและระเบียบเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรง จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายให้โจทก์ โจทก์ได้รับเงินเดือนจากโรงเรียนเดือนละ ๑,๙๔๐ บาทเท่านั้น ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย ๖ เดือน และจ่ายเงินแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้าเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย ๒ เดือนให้โจทก์ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายคือค่าจ้างที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เดือนละ ๑,๙๔๐ บาท โดยไม่รวมเงินเพิ่มตามวุฒิเดือนละ ๓๘๐ บาท กับค่าครองชีพเดือนละ ๒๐๐ บาท ซึ่งเป็นเงินของกระทรวงศึกษาธิการจ่ายให้โจทก์ พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินดังกล่าวให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จคำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ว่า ค่าจ้างอัตราสุดท้ายที่ใช้เป็นเกณฑ์คำนวณค่าชดเชยและเงินแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้านั้น ต้องรวมเงินเพิ่มตามวุฒิและค่าครองชีพเข้าด้วย
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การคำนวณค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ ๔๖ และเงินที่ต้องจ่ายแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๕๘๒ นั้น ถือเอาค่าจ้างเป็นเกณฑ์คำนวณ และค่าจ้างดังกล่าวนี้หมายถึงเงิน หรือเงินและสิ่งของที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อตอบแทนการทำงาน เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางว่าเงินเพิ่มตามวุฒิและค่าครองชีพเป็นเงินของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมิใช่นายจ้างของโจทก์จ่ายให้โจทก์ เงินดังกล่าวจึงมิใช่ค่าจ้าง เพราะมิใช่เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้าง ดังนั้น จึงมิใช่เงินที่ต้องนำมาเป็นเกณฑ์คำนวณค่าชดเชยและเงินที่ต้องจ่ายแทนการบอกเลิกการจ้างล่วงหน้า
พิพากษายืน