แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อศาลยกฟ้องโดยเห็นว่าตัวการไม่มีความผิดแล้วผู้ที่ถูกฟ้องว่าสมรู้กับตัวการนั้น ก็ย่อมไม่มีความผิดดุจกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรู้อยู่ว่านายชุ่มไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่จะเอามาเป็นหลักประกันผู้ต้องหาคดีอาญา จำเลยได้บังอาจรับรองในค้ำขอประกันว่านายชุ่มมีทรัพย์จริงโดยเจตนาช่วยเหลือนายชุ่ม ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๓๐๔
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านาชุ่มตัวการถูกพิพากษาว่าไม่มีความผิด จำเลยเป็นเพียงผู้สมรู้ก็ไม่มีผิดดุจกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาตัดสินยืนโดยวินิจฉัยเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น