คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดแล้ว ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 ประกอบกับกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายจะต้องดำเนินเป็นการด่วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 และ 153 จำเลยจะมาขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังเช่นการขอทุเลาการบังคับคดีแพ่งธรรมดาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมาย ป.วิ.พ. มาตรา 231 หาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองไว้เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องขอให้งดการพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองจนกว่าคดีจะถึงที่สุด โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้าน
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายตรวจวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเพื่อรอจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดแล้วย่อมเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้าจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองต่อไปตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ ประกอบกับกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายจะต้องดำเนินเป็นการด่วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓ และ ๑๕๓ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ จำเลยทั้งสองจะมาขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดดังเช่นการขอทุเลาการบังคับคดีแพ่งธรรมดาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๑ หาได้ไม่ ส่วนที่จำเลยทั้งสองกล่าวอ้างมาในฎีกาว่า จำเลยทั้งสองมีทรัพย์ พอที่จะชำระหนี้โจทก์ได้ทั้งหมดและโจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีอื่นนั้น ก็ไม่ใช่เป็นข้อที่จะต้องพิจารณาในชั้นนี้
พิพากษายืน .

Share